อาร์ที14 เร่งเครื่องให้ทุกภาคส่วนร่วมมือกันเพื่อสร้างความยั่งยืน ในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มอย่างแท้จริง

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday November 9, 2016 16:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ เปิดตัวโมบายแอพพลิเคชั่นตัวใหม่สำหรับผู้บริโภคที่งานอาร์ที14 เป็นแอพฯ ที่สามารถแยกแยะและระบุตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายการค้าของอาร์เอสพีโอ ได้ การประชุมประจำปีว่าด้วยเรื่องการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO) ครั้งที่ 14 ได้ถูกจัดขึ้นเพื่อช่วยผลักดันให้บรรดาบริษัทชั้นนำ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ผู้วางนโยบายและกลุ่มนักวิชาการ มาร่วมมือกันในการสร้างระบบนิเวศน้ำมันปาล์มให้มีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืนมากขึ้น ข้อสรุปจากผลการประชุมอาร์เอสพีโอ เน็กซ์ (RSPO NEXT) เมื่อปีที่ผ่านมานั้นต้องการให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง "มาร่วมกันทำงานดีกว่าที่จะมาแข่งขันกันเพื่อให้ยั่งยืนกว่าเพื่อนบ้าน" และสำหรับในปีนี้การประชุมอาร์ที 14 มีหัวข้อที่ว่าด้วย "การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน: จากวิสัยทัศน์สู่การเปลี่ยนแปลง (Learning to Live Together: From Vision to Transformation)" โดยผู้ที่เกี่ยวข้องจะร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และความชำนาญด้านการปฏิบัติ "ในขั้นตอนนี้พันธมิตรมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่เราพร้อมเปิดรับแนวความคิดในการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงต้องมีส่วนร่วมมากขึ้นเพื่อการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพซึ่งนำมาสู่คำถามที่หาคำตอบได้ยาก ว่าเราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าโครงการที่ได้รับการรับรองนั้นจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเราจะสามารถบรรลุวิสัยทัศน์นี้ได้เพียงแค่เราร่วมมือกันทำงานอย่างเป็นปึกแผ่นและพร้อมทำงานร่วมกัน" นายดาทุ๊ ดาร์เรล เว็บเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของอาร์เอสพีโอ กล่าว อาร์ที 14 ยังคงมุ่งเน้นที่ปัญหาสังคมภายในภูมิภาคที่ผลิตน้ำมันปาล์ม อันเกี่ยวข้องกับสัญญาการจ้างงาน เพศ การอพยพ อาชีวอนามัย ความปลอดภัย รวมถึงห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่ทำการลงทุนสามารถที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพื่อนำไปสู่อนาคตของอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนอย่างจริง ในระหว่างการประชุมประจำปีว่าด้วยเรื่องการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO) นั้นได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยสร้างความมั่นใจว่าในกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่มีการทอดทิ้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไว้ข้างหลังอย่างแน่นอนซึ่งรวมถึงผู้เกี่ยวข้องรายย่อย รวมไปถึงเกษตรกรผู้ถือครองที่ดินรายย่อย โดยการทำให้พวกเขาพร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดโลก "มีเกษตรกรน้ำมันปาล์มรายย่อยประมาณ 3 ล้านคนทั่วโลกซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30 ของผลผลิตปาล์มน้ำมันทั่วโลก ในขณะที่มีการเพาะปลูกน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ของพื้นที่มีมีการปลูกปาล์มน้ำมันทั้งหมด ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของอาร์เอสพีโอ (RSPO) เราพยายามที่จะสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย โดยได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และในเมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศโคลัมเบียและกาน่า"นายดาทุ๊ เว็บเบอร์ กล่าวเพิ่มเติม นอกจากนี้ ภายในงานอาร์ที14 ยังได้เปิดตัววีดีโอรณรงค์ที่ใช้ในการโปรโมตโมบายแอพลิเคชั่นตัวใหม่ของอาร์เอสพีโอ (RSPO) ที่ชื่อว่า อาร์เอสพีโอ เทรดมาร์ค (RSPO Trademark) ซึ่งเป็นแอพที่จะทำให้ผู้บริโภคสามารถแยกแยะและระบุตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายการค้าของอาร์เอสพีโอ (RSPO) ในการเสนอราคาจะช่วยเพิ่มการรับรู้ของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มที่ได้รับการรับรองการผลิตอย่างยั่งยืนและช่วยให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการเลือกซื้อสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบ ความคืบหน้าในการขออนุญาตข้ามเขตแดนเป็นหนึ่งในเรื่องที่ได้รับความสนใจในการประชุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความสำเร็จก้าวสำคัญเมื่อรัฐบาลเอกวาดอร์แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนบริษัทน้ำมันปาล์มที่ยั่งยืน บริษัท เอกวาดอเรี่ยน อเมซอน (Ecuadorian Amazon) เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีผลผลิตสูงที่สุดในภูมิภาค โดยความพยายามที่จะมุ่งจุดสนใจไปที่การเปลี่ยนแปลงส่วนหนึ่งของภูมิประเทศที่ถูกบุกรุกจากการตัดไม้ทำลายป่าสำหรับทำการเกษตรด้วยการพัฒนาอย่างยั่งยืน การเปิดตัวโครงการนำร่องซึ่งใช้หลักการของอาร์เอสพีโอ (RSPO) โดยรัฐบาลได้มีการจัดตั้งพันธมิตรกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัทน้ำมันปาล์มและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร เช่น อันคูปา (Ancupa) และ ยูเอ็น-อาร์อีดีดี (UN-Reducing Emissions from Deforestation and Forest Degradation) งานประชุมอาร์ที14 ได้จัดขึ้นที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพ ประเทศไทย ในวันที่ 9 – 10 พฤศจิกายน 2559 โดยมี ฯพณฯ พลเอก ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยตัวแทนกว่า 800 ท่าน จากบริษัทชั้นนำที่สำคัญในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ผู้นำองค์กรทางด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สถาบันการเงิน ผู้กำหนดนโยบาย และนักวิชาการ ตลอดจนองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมจาก 46 ประเทศ เกี่ยวกับการประชุมประจำปีการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO) ในการตอบสนองที่จำเป็นและเร่งด่วนต่อทั่วโลกที่เรียกร้องการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน การประชุมประจำปีการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO) จัดขึ้นครั้งแรกในปี 2547 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนผ่านมาตรฐานระดับโลกที่เชื่อถือได้และการมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีที่ตั้งสมาคมอยู่ที่เมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ขณะที่สำนักงานเลขานุการในปัจจุบันมีที่ตั้งอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ และสำนักงานย่อยอยู่ที่กรุงจาการ์ตา ลอนดอน และซูเทอร์เมร์ (ประเทศเนเธอร์แลนด์) การประชุมประจำปีการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO) เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งประกอบด้วย 7 ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ได้แก่ ผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ผู้ค้าน้ำมันปาล์ม ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ค้าปลีก ธนาคาร นักลงทุน องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านธรรมชาติและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านสังคมและการพัฒนา โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อพัฒนาและดำเนินการให้เป็นมารฐานสากลเพื่อการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน ดังนั้น ตัวแทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องคือกระจกที่สะท้อนโครงสร้างการกำกับดูแลของการประชุมประจำปีการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO) ดังจะเห็นได้ว่าตำแหน่งคณะกรรมการบริหารและกลุ่มผู้ที่ทำงานในระดับโครงการได้รับการจัดสรรอย่างเป็นธรรมสำหรับทุกภาคส่วน เนื่องจากการประชุมประจำปีการผลิตปาล์มน้ำมันอย่างยั่งยืน (RSPO) ตั้งอยู่บนหลักปรัชญาของการบริหารแบบ "โต๊ะกลม" โดยให้สิทธิความเสมอภาคแก่ทุกภาคส่วนในการนำวาระการประชุมพิเศษเข้าสู่การประชุมประจำปี ส่งเสริมให้ภาคส่วนที่ที่มีความขัดแย้งและคู่แข่งทางธุรกิจทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกันและทำให้เกิดการตัดสินใจที่เป็นฉันทามติ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ