อเบอร์ดีนเปิดตัวกองทุน LTF ใหม่เพิ่มสัดส่วนลงทุนในพันธบัตร ตอบรับการขยายอายุ LTF

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 10, 2016 16:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ย.--อเบอร์ดีน ตามที่กระทรวงการคลังได้ปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์การถือครองหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ใหม่เป็น 7 ปีปฏิทิน ส่งผลให้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อเบอร์ดีน จำกัด (อเบอร์ดีน) พร้อมเปิดตัวกองทุนรวมหุ้นระยะยาวใหม่แก่นักลงทุนโดยมีนโยบายการลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและพันธบัตร กองทุนเปิดอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว 70/30 (หรือตัวย่อ ABLTF70/30) มีนโยบายเน้นการลงทุนในตราสารทุนไทยในสัดส่วน 70% และส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ไทยทำให้มีสัดส่วนการลงทุนคล้ายกองทุนรวมผสม อเบอร์ดีนกล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่จะออกผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ถึงแม้ว่าตลาดหุ้นได้มีการปรับตัวขึ้นอีกครั้งในปีนี้ แต่อเบอร์ดีนเห็นว่ายังมีโอกาสที่หุ้นจะเติบโตได้อีกในระยะยาวหากมีการลงทุนในพันธบัตรจะช่วยกระจายความเสี่ยงและช่วยลดความเสียหายจากการลงทุนในตลาดหุ้นขาลง จึงทำให้กองทุนนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่ต้องการจัดสรรสินทรัพย์ด้วยตัวเองและระมัดระวังความผันผวนที่มาพร้อมกับกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารทุนเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้จึงสอดคล้องกับการลงทุนแบบคัดเลือกหุ้นรายตัวโดยพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน (Bottom-up) ของอเบอร์ดีน ซึ่งถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการลงทุนอย่างระมัดระวังของอเบอร์ดีนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี บริษัทฯ ยังเห็นแนวโน้มการเติบโตของประเทศไทยที่ดีขึ้นในปีหน้าแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลง การลงทุนในหุ้นของกองทุน ABLTF70/30 จะใช้นโยบายการลงทุนเดียวกันกับกองทุน ABLTF ที่มีอยู่ โดยเพิ่มสัดส่วนของพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งกองทุน ABLTF สร้างผลตอบแทน 323.88% เมื่อเทียบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์รวมที่ 285.05% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อปี 2547 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2559) กองทุนรวม ABLTF70/30 เปิดเสนอขายครั้งแรกที่ราคา 10 บาทต่อหน่วยโดยเสนอขายระหว่างวันที่ 14-22 พฤศจิกายน 2559 และเปิดเสนอขายอีกครั้งในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 สำหรับงานสัมมนาประจำปีมุมมองตลาดทุนปี 2560 คุณอดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน ได้ให้ความเห็นว่า "สำหรับในปี 2559 ตลาดหุ้นไทยนับว่าทำผลงานได้ดีกว่าตลาดอื่นเกือบทุกที่ จากการที่มีสภาพคล่องที่ดี อัตราดอกเบี้ยต่ำ การแสวงหาอัตราผลตอบแทน การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมาในเชิงบวกในเดือนสิงหาคม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุน อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคยังคงคลุมเครือ บางภาคส่วนดูเข้มแข็งในขณะที่บางภาคส่วนกำลังปรับตัวเพื่อผ่านพ้นปัญหาในขณะนี้ ผลประโยชน์จากการ กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลผ่านการใช้จ่ายของโครงสร้างพื้นฐานยังไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรม และความเสี่ยงทางการเมืองก็ยังคงมีอยู่ สำหรับเราแล้วเราเห็นว่ามีหุ้นขนาดใหญ่บางตัวมีการซื้อขายเกินมูลค่าที่แท้จริง ทั้งที่ไม่ได้มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของกำไร ทุกครั้งเราจะมุ่งเน้นบริษัทที่มีการบริหารจัดการที่ดี มีความแข็งแกร่ง โดยไม่ได้คำนึงถึงขนาดของบริษัท เรามีความมั่นใจมากว่าบริษัทที่เราลงทุนจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในภาวะที่ยากลำบากไปได้ และจะสร้างผลตอบแทนได้อย่างยอดเยี่ยมในระยะยาว" คุณพงค์ธาริน ทรัพยานนท์ หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เศรษฐกิจไทยจะยังคงเติบโตต่อไปแต่อาจจะต่ำกว่าศักยภาพที่มี อุปสรรคมีตั้งแต่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนแอจนถึงการส่งออกที่ชะลอตัวลง ซึ่งหมายถึงการปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อต่ำที่ประมาณ 1% ที่ยังคงดำเนินต่อไป ดังนั้นเราเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของไทยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำและราคาตราสารหนี้ที่ยังคงที่อยู่อีกตราบเท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงรักษาจุดยืนต่อการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้เราน่าจะสามารถรับความเสี่ยงของดอกเบี้ยได้ในระยะเวลาหนึ่ง โดยลงทุนผ่านตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ" รายละเอียดกองทุน กองทุนเปิดอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว 70/30 กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ไม่เกินร้อยละ 70 ของ NAV และส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่มีความระมัดระวังในการลงทุนผ่านกองทุนหุ้นเพียงอย่างเดียว ประเภทกองทุน ตราสารทุน (กองทุนหุ้นระยะยาว – LTF) นโยบายการลงทุน ลงทุนในตราสารทุนโดยจะลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 และไม่เกินร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับการลงทุนในส่วนที่เหลือทั้งในและต่างประเทศจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และ/หรือภาคเอกชน และ/หรือเงินฝากหรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีการอื่นอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. คณะกรรมการกำกับตลาดทุน หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรืออนุญาตให้กองทุนรวมหุ้นระยะยาวสามารถลงทุนได้ โดยต้องไม่มีลักษณะที่ทำให้กองทุนมี net exposure ในตราสารทุนหรือหุ้นโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีน้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนอาจจะลงทุนในตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ตัวตราสารหรือที่ผู้ออกตราสารต่ำกว่าที่สามารถลงทุนได้ (Non-Investment Grade) และตราสารที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ตัวตราสารและที่ผู้ออกตราสาร (Unrated Securities) รวมทั้งกองทุนอาจจะลงทุนในตราสารแห่งทุนของบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Unlisted Securities) กองทุนจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note) ในกรณีที่มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วนโดยไม่เกินร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนอาจจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เกณฑ์มาตรฐาน SET TRI สกุลเงิน บาท กองทุนเปิดอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว 70/30 เปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 14 – 22 พฤศจิกายน 2559 สำหรับยอดเงินลงทุนทุก ๆ 50,000 บาท ผู้ลงทุนจะได้รับหน่วยลงทุนอเบอร์ดีน แคช ครีเอชั่น มูลค่า 100 บาท และนับรวมสิทธิดังกล่าวสำหรับลูกค้าที่ลงทุนในกองทุนรวม LTF-RMF ก่อนหน้านี้อีกด้วย เป็นไปตามเงื่อนไข ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ