กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--กระทรวงเกษตรฯ
กองเรือจับปลาทูน่าไทยใกล้ถึงกาลอวสาน 3 ปีออกเรืออวนล้อม "มุกมณี" ได้เพียง 8 ครั้งที่เหลือต้องหยุดซ่อม เพราะดันไปซื้อเรือเก่ามาใช้งาน หมดปัญหาชำระหนี้เงินกู้ค่าเรือมุกมณีได้ตามแผนการชำระหนี้ที่กำหนด จนกรมส่งเสริมสหกรณ์ต้องยื่นมือออกมาช่วยเหลือต่อชีวิตให้ด้วยการเสนอแผนการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ค่าเรือเป็น 10 ปี พร้อมลดดอกเบี้ยจากร้อยละ 4 ลงเหลือร้อยละ 2 พร้อมกับดันให้เรือมุกมณีออกจับทูน่าสวนกระแสราคาทูน่าโลกตกต่ำต่อไป
3 ปีของกองเรือจับปลาทูน่าน้ำลึกของไทยใกล้ที่จะปิดฉากลงแล้ว เมื่อผลการดำเนินงานของเรือ "มุกมณี" ในฐานะเรืออวนล้อมจับปลาทูน่ามูลค่า 130 ล้านบาท ลำแรกและลำเดียวของกองเรือนี้ ไม่สามารถจับปลาได้ตามเป้าหมาย ประกอบกับต้องเผชิญกับราคาทูน่าตกต่ำทั่วโลก ส่งผลให้สหกรณ์ประมงทูน่าน้ำลึกไทย (Thai Oceanic Tuna Fisheries) ไม่สามารถชำระเงินกู้ที่นำมาซื้อเรือมุกมณีกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ นายบุญมี จันทรวงศ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้เตรียมที่จะเสนอให้นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ พิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์ประมงทูน่าน้ำลึกไทย จำกัด จ. ภูเก็ต ขึ้นมาอย่างเร่งด่วน โดยคณะทำงานดังกล่าวจะประกอบไปด้วยตัวแทนของ กรมส่งเสริมสหกรณ์, กรมประมง, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกองทัพเรือ เนื่องจากผลประกอบการของสหกรณ์ประมงทูน่าน้ำลึกไทยประสบการขาดทุนมาโดยตลอด จนกระทั่งล่าสุดทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ต้องทำเรื่องเพื่อขอขยายระยะเวลาการชำระหนี้โครงการจัดซื้อเรือทูน่าอวนล้อม "มุกมณี" ที่ค้างชำระอยู่อีก 40 ล้านบาทออกไปจนถึงปี 2551
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการจับปลาทูน่าของเรือมุกมณีตลอด 3 ปี (2541-2543) ที่ผ่านมา มีการออกเรือเพื่อจับปลาทูน่ารวม 11 ครั้ง สามารถจับปลาได้จริงเพียง 8 ครั้ง โดยในปี 2541 ออกเรือจับปลาได้ 1 ครั้ง จำนวนทูน่า 324.151 ตัน คิดเป็นมูลค่า 11.18 ล้านบาท, ปี 2542 ออกเรือจับปลาได้ 5 ครั้ง จำนวนทูน่า 959.734 ตัน คิดเป็นมูลค่า 25.87 ล้านบาท และปี 2543 ออกเรือจับปลาได้เพียง 2 ครั้ง จำนวนทูน่า 979.205 ตัน คิดเป็นมูลค่า 18.30 ล้านบาท รวมออกจับปลาทูน่าทั้งหมด 8 ครั้ง จับปลาได้ 2,262 ตัน คิดเป็นมูลค่า 55.35 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อสถานการณ์ของกองเรือจับปลาทูน่าไทยเป็นเช่นนี้ ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์จึงต้องเข้ามาหาทางช่วยเหลือด้วยการเสนอให้มีการขยายระยะเวลาการชำระหนี้โครงการจัดซื้อเรือทูน่า "มุกมณี" จากเดิมที่กำหนดไว้ 5 ปี เป็น 10 ปี (31 สิงหาคม 2541-31 สิงหาคม 2551) พร้อมกับเสนอให้ปรับแผนการชำระหนี้ที่ยังติดค้างอยู่กับกรมส่งเสริมสหกรณ์รวมทั้งสิ้น 40 ล้านบาท ด้วยการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปอีก 8 ปี (2544-2551) กำหนดชำระปีละ 5 ล้านบาทพร้อมลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 4 ลงเหลือร้อยละ 2 โดยเท่าที่ผ่านมาทางสหกรณ์ได้ส่งเงินกู้ที่ยืมมาคืนกรมบัญชีกลางไปแล้วเป็นจำนวน 10 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามมีข้อน่าสังเกตว่า ผลประกอบการขาดทุนจากการจับปลาทูน่าของเรือมุกมณีนั้น มีสาเหตุหลักมาจาก 1)ราคาทูน่าในตลาดโลกตกต่ำมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2542 ต่อเนื่องมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันและยังไม่มีท่าทีที่จะกระเตื้องขึ้น จนกองเรือทูน่าส่วนใหญ่ต้องลดจำนวนเที่ยวเรือจับปลาลงเพื่อให้ซัพพลายทูน่าหายไปจากตลาด 2)เรือมุกมณีเป็นเรือเก่ามีอายุเกือบ 20 ปีแล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเลยว่า เรือลำนี้จะออกอาการ 3 วันดี 4 วันไข้ มีการจอดซ่อมเรือบ่อยครั้งมาก จนไม่สามารถออกจับปลาทูน่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ--จบ--
-สส-