กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 1 – 13 ธันวาคม 2559 เกิดสถานการณ์อุทกภัย 12 จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด และยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สงขลา และพัทลุง พร้อมประสานจังหวัดบูรณาการหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำท่วมขังลงสู่ทะเลและพื้นที่รองรับน้ำ ตลอดจนสำรวจและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย และทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ในช่วงวันที่ 15 – 18 ธันวาคม 2559 ทำให้ภาคใต้ มีฝนเพิ่มขึ้นกับฝนตกหนักบางแห่ง ปภ.จึงได้ประสานจังหวัดเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 – 13 ธันวาคม 2559 เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันใน 12 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง และประจวบคีรีขันธ์ รวม 96 อำเภอ 654 ตำบล 4,844 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 256,706 ครัวเรือน 762,753 คน ผู้เสียชีวิต 29 ราย ถนนเสียหาย 3,142 จุด คอสะพาน 157 แห่ง ท่อระบายน้ำ 90 แห่ง ฝาย 89 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 2 แห่ง ประตูระบายน้ำ 1 แห่ง โรงเรียน 855 แห่ง วัด 41 แห่ง มัสยิด 6 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ยะลา นราธิวาส ระนอง ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สงขลา และพัทลุง รวม 15 อำเภอ 85 ตำบล 598 หมู่บ้านโดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำในอำเภอเกาะสมุย รวม 6 ตำบล 33 หมู่บ้าน นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอปากพนัง และอำเภอหัวไทร รวม 32 ตำบล 271 หมู่บ้าน 22 ชุมชน ตรัง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง และอำเภอกันตัง รวม 8 ตำบล 33 หมู่บ้าน สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลาในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอระโนด อำเภอสิงหนคร อำเภอกระแสสินธุ์ และอำเภอสทิงพระ รวม 21 ตำบล 126 หมู่บ้าน พัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอบางแก้ว อำเภอปากพะยูน และอำเภอเขาชัยสน รวม 11 ตำบล 78 หมู่บ้าน โดยปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยโดยรวมเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลง เนื่องจากไม่มีฝนตกในระยะนี้ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลและแหล่งน้ำสาธารณะโดยเร็วที่สุด รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบน อำนวยความสะดวกในการสัญจรและขนย้ายสิ่งของแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย และทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 15 – 18 ธันวาคม 2559 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นกับฝนตกหนักบางแห่ง อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ปภ. จึงได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามสภาพอากาศ และพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป