รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม – กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา – กระทรวงมหาดไทย - กทม. และภาคเอกชนจัดงาน “แสงเทียนแห่งสยาม สวดมนต์ข้ามปีส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธฯ” เชิญชวนประชาชนร่วมงานเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต

ข่าวทั่วไป Tuesday December 27, 2016 11:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 ที่ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดงาน "แสงเทียนแห่งสยาม สวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธถวายเป็นพระราชกุศลพุทธศักราช 2560" ร่วมกับนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬา และพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครร่วมแถลงข่าว พลเอกธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเกี่ยวกับกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่พุทธศักราช 2560 ดังนี้ 1.กิจกรรมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร 2.สวดมนต์ข้ามปีทุกศาสนา 3.การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย 4.การจัดกิจกรรมนับถอยหลัง(Countdown) เข้าสู่ปีใหม่พ.ศ.2560 พลเอกธนะศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีประชาชนมาร่วมสวดมนต์กว่า 18 ล้านคน และในปีนี้หน่วยงานต่างๆ อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานครและภาคเอกชน องค์กรทางศาสนาและชาวพุทธทั้งในประเทศและทั่วโลกร่วมกันจัดการสวดมนต์ข้ามปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 โดยจะจัดกิจรรม ณ วัด สนามหลวงและสถานที่ต่างๆซึ่งอยู่นอกวัด ทั้งนี้ ในเวลา 21.00 น.จะมีการถวายความรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโดยยืนสงบนิ่ง 89 วินาที และเวลา 23.45 น.จะสวดมนต์ส่งท้ายปีเก่า นะโม 3 จบ และบทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย(อิติปิโสภะคะวา)โดยจะเป็นการสวดมนต์ให้แก่ประเทศชาติ พระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ ประชาชนและผู้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเวลา 24.00 น. ลั่นฆ้องชัย 9 ครั้ง พระสงฆ์และประชาชนสวดมนต์ข้ามปีด้วยบทชยันโต และร้องเพลง"พรปีใหม่" และ "เพลงสรรเสริญพระบารมี" พร้อมฉายพระบรมฉายาลักษณ์พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทร เทพยวรางกูร และวันที่ 1 มกราคม 2560 เวลา 00.09 น.จะมีการจุดเทียน "แสงเทียนแห่งสยาม" พระสงฆ์ และประชาชนสวดมนต์รับปีใหม่ บทชัยมงคลคาถา(พาหุง)และเวลา 07.00 น.มีพิธีทำบุญตักบาตร เพื่อต้อนรับปีพุทธศักราช 2560 นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.) กล่าวว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2559 เห็นชอบกรอบแนวทางการจัดกิจกรรม "สวดมนต์ข้ามปีส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ พุทธศักราช 2560"ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)เสนอ ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้บูรณาการร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรุงเทพมหานคร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด และ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรม แสงเทียนแห่งสยาม สวดมนต์ข้ามปีส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ถวายเป็นพระราชกุศล พุทธศักราช 2560 ดังนี้ 1.กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ส่งท้ายปีเก่าวิถีไทย – ต้อนรับปีใหม่วิถีพุทธ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ถึง วันที่1มกราคม 2560 มีการจัดกิจกรรมในวัดและนอกวัด และจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ระหว่างวันที่ 29-30 ธันวาคม 2559 และงานแสงเทียนแห่งสยาม ในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และการจัดทำ สปอตวิทยุ โทรทัศน์ วีดิทัศน์และคู่มือบทสวดมนต์ข้ามปีอีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับจำนวนวัดและสถานที่จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีทั่วประเทศ ในปี 2560 มีวัดในกรุงเทพมหานคร 395 แห่ง และวัดในต่างจังหวัด 76 จังหวัด 24,189 แห่ง รวมทั่วประเทศ 24,584แห่ง และยังจัดสวดมนต์ข้ามปีอาเซียน 15 จังหวัด รวมทั้งสวดมนต์ข้ามปีในวัดไทยในต่างประเทศ 504 วัด อีกทั้งยังสวดมนต์ข้ามปีตามหลักของศาสนาคริสต์, พราหมณ์ - ฮินดู ซิกข์ และในปีนี้กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดตั้งการตั้งศูนย์ประสานงานและการรายงานผล จำนวน 4 ระดับ คือ ระดับประเทศ ระดับหน่วยงาน ระดับจังหวัด และระดับอำเภอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า 2.กิจกรรม "ไหว้พระ 10 วัด สืบสิริสวัสดิ์ 10 รัชกาล" เป็นวัดที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดพระเชตุพนวิมล มังคลารามราชวรมหาวิหาร ,วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ,วัดราชโอรสาราม,วัดราชประดิษฐ สถิตมหาสีมาราม ,วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ,วัดบวรนิเวศวิหาร,วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม , วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร, วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก และวัดวชิรธรรมสาธิต เขตบางนา ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2559 - 2 มกราคม 2560 โดยจัดรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก. ให้บริการรับ - ส่ง พร้อมทั้งจัดทำหนังสือไหว้พระ 10 วัด 10 รัชกาล และแผ่นพับไหว้พระ 10 วัด เพื่อแจกจ่ายประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย 3.กิจกรรม "กราบบูชาพระพุทธปฏิมาในพระมหากรุณาพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า" วันที่ 26 ธันวาคม 2559 - 31 มกราคม 2560 ณ พระที่นั่งพุทธไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยนำพระพุทธรูปสำคัญแสดงปางต่างๆ จำนวน 10 องค์ ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์,พระห้ามสมุทร,พระพุทธรูปปางจงกรมแก้ว, พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกกรกิริยา, พระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร, หลวงพ่อนาก ปางสมาธิเพชร, พระพุทธรูปปางขอฝน, พระพุทธรูปปางลองหนาว, พระพุทธรูปปางสมาธิ, พระพุทธรูป ปางห้ามญาติ(ปางประทานอภัย) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางที่ประชาชนไม่ค่อยได้มีโอกาสสักการบูชา นำออกให้กราบบูชาเพื่อความเป็นมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ วธ.ยังมีการจัดกิจกรรมอื่นๆ ได้แก่ การเปิดแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ได้แก่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และอุทยานประวัติศาสตร์ทุกแห่ง ทั่วประเทศให้เข้าชมฟรี ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2560 การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เช่น การทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะโดยกระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมทำความสะอาด อุทยานประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์และแหล่งวัฒนธรรมต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม มีการจัดแสดงทุกจังหวัดทั่วประเทศ โรงละคร วังหน้า วิทยาลัยนาฏศิลป วิทยาลัยช่างศิลป โดยให้ประชาชนเข้าชมฟรี และนิทรรศการ "อัครศิลปิน เหนือเกล้า"พลังศิลปินรวมใจ แสดงความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 5 ธันวาคม 2559 -27 มกราคม 2560 ณ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน และวธ.ได้จัดทำหนังสือ "เทิด ๙ ปกเกศ ๗๐ คุณธรรมนำประชา" ที่ได้รวบรวมพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาท ด้านคุณธรรม 5 ประการ ได้แก่ ซื่อตรง วินัย รับผิดชอบ จิตอาสา และพอเพียง สำหรับประชาชนนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน โดยจะแจกหนังสือให้แก่ประชาชน รวมทั้งเผยแพร่และเปิดให้ประชาชนเข้ามาดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ www.moralcenter.or.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ