กรุงเทพฯ--24 ม.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ลงพื้นที่นครปฐม ตรวจเยี่ยมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนักบุญเปรโต จำกัด ต้นแบบสหกรณ์แห่งการเรียนรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้คนในชุมชน เผยจุดแข็งจัดอบรมสมาชิกให้มีความตื่นตัวและเรียนรู้ตลอดเวลา กรมส่งเสริมสหกรณ์พร้อมหนุนโครงข่ายสหกรณ์รวมตัวเป็นหนึ่งเดียว หวังพัฒนาสมาชิกมีความกินดีอยู่ดี พร้อมชูยุทธศาสตร์เน้นจิตตารมณ์เป็นหลักบริหารการทำงาน
ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครปฐมพร้อมตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนักบุญเปโตร จำกัด ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2514 โดยมีเป้าหมายในการนำวิธีการสหกรณ์เข้ามาช่วยเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง มุ่งพัฒนาคนในชุมชนให้เกิดการเรียนรู้ การช่วยเหลือเกื้อกูลกันและส่งผลต่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ซึ่งจำนวนสมาชิกเมื่อแรกตั้งมีเพียง 32 คน ปัจจุบันมีสมาชิก 6,018 คน มีทุนเรือนหุ้น 872 ล้าน ทุนสำรอง 134 ล้านบาทและเงินทุนหมุนเวียนกว่า 3,000 ล้านบาท โดยสหกรณ์ได้ยึดหลักจิตตารมณ์ในการดำเนินงานของสหกรณ์ ซึ่งเป็นหลักคุณธรรมที่สมาชิกทุกคนพึงมีและต้องยึดถือปฏิบัติ เพื่อการอยู่ร่วมกันนั้นจะได้ก่อให้เกิดความสุขความเจริญทั้งต่อตัวเองและต่อสังคม
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีที่ได้มาเยี่ยมชมสหกรณ์ฯในครั้งนี้ ซึ่งเป็นสหกรณ์ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสหกรณ์ดีเด่นระดับชาติ ได้รับโล่พระราชทานในงานพระราชพิธีจรดพนังคัลแรกนาขวัญเมื่อปี 2541และ 2547 ซึ่งนับเป็นสิ่งยืนยันว่าสหกรณ์แห่งนี้ดำเนินงานด้วยความยึดมั่นในหลักและวิธีการสหกรณ์อย่างเข้มแข็ง จากการได้มาเยี่ยมชมครั้งนี้ สิ่งที่ประทับใจคือการให้เกียรติสมาชิก และการให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมแก่บุคลากรสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ จึงได้เน้นย้ำกับผู้บริหารของสหกรณ์ว่าให้คำนึงถึงหลักเกณฑ์ของสหกรณ์ในการอยู่ร่วมกัน การพึ่งพาอาศัยและช่วยเหลือเกื้อกูลกันในหมู่สมาชิกจะส่งผลให้การดำเนินงานของสหกรณ์เจริญก้าวหน้าต่อไปได้ และหวังว่าสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนักบุญ เปโตร จำกัดจะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเป็นตัวอย่างให้กับสหกรณ์ต่างๆ เข้ามาศึกษาแนวทางการบริหารงานของสหกรณ์ เพื่อนำสิ่งดีๆไปปรับใช้กับสหกรณ์ของตนเองได้ในที่สุด
นายเชษฐ์ จินดาสันติสกุล ผู้ตรวจสอบกิจการ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนักบุญเปโตร จำกัด กล่าวว่า การทำงานของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนนักบุญเปโตร ตระหนักถึงหลักธรรมาภิบาล 5 ประการคือ 1.ความซื่อสัตย์2.ความเสียสละ 3.ความรับผิดชอบ 4.ความเห็นใจ และ5.ความไว้ใจกัน สำหรับเป็นแนวทางในการดำเนินการสหกรณ์ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สมาชิกสหกรณ์ โดยจุดแข็งสหกรณ์คือ การจัดการอบรมให้สมาชิกบุคลากรมีความเข้มแข็ง มีความรอบรู้และเรียนรู้ตลอดเวลา ภายใต้วิสัยทัศน์ของสหกรณ์คือ เป็นองค์กรก้าวล้ำธุรกิจ พัฒนาชีวิต พัฒนาคน สร้างสรรค์ชุมชนเข้มแข็งแบ่งปันสังคมและยึดจิตรมย์เป็นหลัก
นอกจากนี้ สหกรณ์ยังได้มีโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับสมาชิก ตั้งแต่เกิดจนเสียชีวิต เช่น สวัสดิการเพื่อการสมรส สวัสดิการเพื่อบุตร สวัสดิการเพื่อการศึกษาบุตร สวัสดิการเพื่อผู้พิการและไร้ความสามารถ สวัสดิการคุ้มครองเงินสะสม/ค่าหุ้น สวัสดิการคุ้มครองเงินกู้ สวัสดิการเพื่อผู้ประสบภัยพิบัติและสวัสดิการเพื่อผู้เสียชีวิต รวมทั้งโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, โครงการบรรเทาทุกข์ สร้างสุข เสริมมั่นคงปลดหนี้ภายนอก (แก้ไขหนี้นอกระบบที่คั่งค้าง), โครงการเพื่อพัฒนาสังคม เป็นทุนสาธารณะประโยชน์, โครงการสินค้าสวัสดิการและสินค้าฝากขาย, โครงการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างสหกรณ์และโครงการรณรงค์รักษ์สภาพแวดล้อม ซึ่งทุกโครงการสหกรณ์ทำขึ้นเพื่อมุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สมาชิก และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับคนในชุมชนมีความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนต่อไป