WICE ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 30% ทุบสถิติรอบ 24 ปี เห็นแววงานโลจิสติกส์ขยายตัวครบวงจร พร้อมรับรู้รายได้ SEL เต็มปี กางแผนลุยขยายงานบริการทุกด้าน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 31, 2017 12:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ม.ค.--Worklink PR WICE ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 30% ทุบสถิติรอบ 24 ปี เห็นแววงานโลจิสติกส์ขยายตัวครบวงจร พร้อมรับรู้รายได้ SEL เต็มปี กางแผนลุยขยายงานบริการทุกด้าน เตรียมลงทุนใหม่เพิ่มหัวลากหางพ่วง รองรับงานและดีมานด์พุ่ง เดินหน้าอัพฐานลูกค้าใหม่ สร้างโครงข่ายพันมิตรต่อยอดธุรกิจ นางอารยา คงสุนทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (WICE ) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 60 เติบโต 30% จากปี 59 ซึ่งรายได้ในปีนี้จะถือเป็นการเติบโตสูงสุดของการดำเนินงานในรอบ 24 ปีของ WICE โดยปัจจัยสนับสนุนการเติบโต มาจากขยายตัวของปริมาณงานบริการทุกประเภท ประกอบด้วย งานบริการนำเข้าส่งออกทางทะเล(Sea Freight) ทางอากาศ (Air Freight) งานบริการพิธีการศุลกากร งานขนส่งในประเทศ และงานบริหารจัดการคลังสินค้า นอกจากนี้บริษัทยังรับรู้รายได้จากการดำเนินงานของ SEL เข้ามาเต็มปีเป็นปีแรก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสัดส่วนรายได้แบ่งออกเป็น งาน Sea Freight 45% งาน Air Freight 35% และงานขนส่งในประเทศ งานให้บริการพิธีการศุลกากร งานให้บริการจัดการคลังสินค้า 20% สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 60 บริษัทยังเดินหน้าขยายบริการทุกรูปแบบในกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ และต่อยอดงานและโปรโมทงานในกลุ่มงาน Air Freight ร่วมกับ SEL ขณะเดียวกันบริษัทวางแผนซื้อรถหัวลาก-หางพ่วงเพิ่มอีก เพื่อรองรับงานทรานสปอร์ตภายในประเทศและงานขนส่งข้ามชายแดนที่มีปริมาณงานและความต้องการของลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งปริมาณงานขนส่งภายในประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น3,000 กว่าเที่ยวต่อเดือน จากเดิมอยู่ที่ 2,000 กว่าเที่ยวต่อเดือน นอกจากนี้งานขนส่งระหว่างประเทศ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญา 1 ปี ในการรับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ โดยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่ย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทย คิดเป็นมูลค่าการให้บริการอยู่ที่ 50 ล้านบาทต่อปี เพื่อส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งเป็นตลาดที่ WICE มีความถนัดอยู่แล้ว และในอนาคต WICE มีโอกาสต่อยอดธุรกิจในการเข้าไปรับงานในส่วนคลังสินค้าเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน ส่วนธุรกิจคลังสินค้ามีแนวโน้มที่ดี โดยเห็นได้จากการขยายตัวของปริมาณงานบริหารจัดการคลังสินค้าและการใช้พื้นที่คลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่ที่แสดงความสนใจขอใช้บริการ ประกอบกับผู้นำเข้าส่งออกในปัจจุบันหันมาใช้บริการในรูปแบบ Third Party Logistics มากขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีคลังสินค้า จำนวน2 แห่ง โดยคลังสินค้าแห่งแรกมีขนาด 13,000 ตร.ม. และคลังสินค้าแห่งที่สองมีขนาด 8,000 ตร.ม. นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างโครงข่ายพันธมิตรโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจและสร้างการเติบโตร่วมกันในอนาคต

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ