ผลสำรวจความคิดเห็นพ่อแม่ผู้ปกครองต่อมาตรการของภาครัฐต่อการสอดส่องดูแลพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษา

ข่าวทั่วไป Monday February 27, 2017 11:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 ก.พ.--สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ผู้ปกครอง 73.62% ระบุการเข้มงวดกวดขันป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของกลุ่มวัยรุ่นเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมในระยะยาว ขณะที่ร้อยละ 71.79 ระบุการขอความร่วมมือไม่ให้แต่งชุดนักเรียนไปห้างสรรพสินค้าเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล ร้อยละ 74.24 ระบุเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโส ,อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช ประธานกรรมการ ,ดร.พิสิฐ พฤกษ์สถาพร กรรมการรองผู้อำนวยการ และอาจารย์วัฒนา บุญปริตร กรรมการรองผู้อำนวยการสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (ระดับอุดมศึกษา) แถลงผลการสำรวจความคิดเห็นของพ่อแม่ผู้ปกครองในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการกำหนดมาตรการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษา ซึ่งได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 18 ถึง 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,145 คน ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ เช่น เทศกาลปีใหม่ วันวาเลนไทน์ เทศกาลสงกรานต์ และเทศกาลลอยกระทง หน่วยงานภาครัฐจะมีการเข้มงวดกวดขันในการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันมิให้นักเรียนนักศึกษาแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่างๆ เช่น ยกพวกทะเลาะวิวาท/ทำร้ายร่างกาย มั่วสุม ดื่มสุรา สูบบุหรี่ เล่นการพนัน ลักลอบมีเพศสัมพันธ์กัน เป็นต้น โดยการจัดเจ้าหน้าที่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมไปถึงสารวัตรนักเรียนออกตรวจตราในบริเวณจุดเสี่ยงต่างๆ แต่อย่างไรก็ตามมีกลุ่มนักวิชาการ พ่อแม่ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้คนในสังคมทั่วไปได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเข้มงวดกวดขันในการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาไม่ควรกระทำเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆเท่ากัน ขณะเดียวกันเมื่อช่วงวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมาได้ปรากฏข่าวเกี่ยวกับการที่มีเจ้าหน้าที่ในบางพื้นที่ได้ไปตรวจตราการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาในบริเวณพื้นที่ห้างสรรพสินค้าขณะที่นักเรียนนักศึกษากำลังนั่งรับประทานอาหาร ซึ่งทำให้นักเรียนนักศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครอง ตลอดจนผู้คนทั่วไปในสังคมได้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงการกระทำของเจ้าหที่ว่าเหมาะสมหรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้นักเรียนนักศึกษาเปลี่ยนจากชุดนักเรียนนักศึกษาเป็นชุดลำลองก่อนเดินทางไปห้างสรรพสินค้า จากประเด็นดังกล่าว สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของพ่อแม่ผู้ปกครองในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อการกำหนดมาตรการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษา ศ.ดร.ศรีศักดิ์กล่าวต่อไปว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดซึ่งจำแนกเป็นเพศหญิงร้อยละ 51.79 และเพศชายร้อยละ 48.21 สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 60.35 มีความคิดเห็นว่าในปัจจุบันปัญหานักเรียนนักศึกษาที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ยกพวกทะเลาะวิวาท/ทำร้ายร่างกาย มั่วสุม ดื่มสุรา สูบบุหรี่ เล่นการพนัน ลักลอบมีเพศสัมพันธ์กัน เป็นต้น มีมากกว่าในอดีต ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 30.92 มีความคิดเห็นว่ายังคงมีเท่าๆกับในอดีต โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างเพียงร้อยละ 8.73 เชื่อว่ามีน้อยกว่าในอดีต ในด้านความคิดเห็นต่อการจัดเจ้าหน้าที่มาสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษานั้น กลุ่มตัวอย่างเกือบสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 65.59 เห็นด้วยที่มีหน่วยงานเฉพาะจัดเจ้าหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาภายนอกสถานศึกษา/สถานที่พักอาศัย เช่น ยกพวกทะเลาะวิวาท/ทำร้ายร่างกาย มั่วสุม ดื่มสุรา สูบบุหรี่ เล่นการพนัน ลักลอบมีเพศสัมพันธ์กัน เป็นต้น ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 62.18 มีความคิดเห็นว่าหน่วยงานเฉพาะควรจัดเจ้าหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาภายนอกสถานศึกษา/สถานที่พักอาศัยตลอด 24 ชั่วโมงเลย ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 37.82 มีความคิดเห็นว่าควรสอดส่องดูแลเฉพาะในช่วงเวลาเรียนระหว่างเวลา 08:00 น. ถึง 16:00 น. นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 59.91 มีความคิดเห็นว่าการมีหน่วยงานเฉพาะจัดเจ้าหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาภายนอกสถานศึกษา/สถานที่พักอาศัยจะมีส่วนช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับนักเรียนนักศึกษาได้ ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 58.69 มีความคิดเห็นว่าการมีหน่วยงานเฉพาะจัดเจ้าหน้าที่ช่วยสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาภายนอกสถานศึกษา/สถานที่พักอาศัยมีส่วนช่วยลดโอกาสการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่างๆของนักเรียนนักศึกษาได้ อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 73.62 มีความคิดเห็นว่าการเข้มงวดกวดขันในการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของกลุ่มวัยรุ่นในช่วงเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลปีใหม่ วันวาเลนไทน์ เทศกาลสงกรานต์ วันลอยกระทง เป็นต้น ให้มากกว่าปกติจะไม่มีส่วนช่วยแก้ปัญหาการแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาในระยะยาวได้จริง ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างมากกว่าสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 76.16 มีความคิดเห็นว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเข้มงวดกวดขันในการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาทั้งช่วงเทศกาลสำคัญและช่วงเวลาปกติทั่วไปอย่างเท่าเทียมกัน ในด้านความคิดเห็นต่อการแต่งชุดนักเรียนนักศึกษาไปยังสถานที่สาธารณะหลังเวลาเลิกเรียนและแนวทางการปฏิบัติในการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษานั้น กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 71.79 มีความคิดเห็นว่าการขอความร่วมมือให้นักเรียนนักศึกษาแต่งชุดลำลองไปใช้บริการห้างสรรพสินค้าหลังเลิกเรียนแทนการแต่งชุดนักเรียนนักศึกษาเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ขณะที่กลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 74.24 มีความคิดเห็นว่าการขอความร่วมมือให้นักเรียนนักศึกษาแต่งชุดลำลองไปใช้บริการห้างสรรพสินค้าหลังเลิกเรียนแทนการแต่งชุดนักเรียนนักศึกษาถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างประมาณสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 75.02 มีความคิดเห็นว่าการถ่ายรูป/จดชื่อนักเรียนนักศึกษาเพื่อส่งสถานศึกษาในกรณีที่นักเรียนนักศึกษาไปนั่งรับประทานอาหารที่ห้างสรรพสินค้าหลังเวลาเลิกเรียนเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ในทางกลับกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 59.13 มีความคิดเห็นว่าการแต่งชุดนักเรียนนักศึกษาไปสถานที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์จะมีส่วนช่วยให้นักเรียนนักศึกษาเพิ่มความระมัดระวังตัวที่จะไม่ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมได้ และกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 63.06 มีความคิดเห็นว่าหากมีการกำหนดแนวทางขั้นตอนปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการสอดส่องดูแลควบคุมป้องกันพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักเรียนนักศึกษาให้ชัดเจนขึ้นจะมีส่วนช่วยลดปัญหาการกระทำการเกินกว่าเหตุ/ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่บางส่วนได้
แท็ก ก.พ.  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ