กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--IR network
"ทวิช เตชะนาวากุล" ผู้ถือหุ้นใหญ่ IFEC จี้ "นพ.วิชัย" เลิกทำตัว "หัวหมอ" จะยื้อตั้งกรรมการไปถึงไหน เหตุพบว่าการจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตกม้าตายกรอกเอกสารไม่ครบถ้วน ทำให้ปัจจุบันยังไม่สามารถจัดตั้งบอร์ดได้และไม่อำนาจที่สมบูรณ์ตามกระบวนการทางกฎหมาย แม้จะมีการแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯแล้วก็ตาม ระบุชัดเจนยิ่งใช้เวลานานจะยิ่งสร้างความเสียหายแก่ IFEC หนักขึ้นไปอีก ชี้หาก "นพ.วิชัย"รักบริษัทและจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ควรเร่งจำกัดวงของความหายให้ยุติโดยเร็ว เพื่อจะได้เดินหน้าต่อไป
นายทวิช เตชะนาวากุล เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) เรียกร้องให้ นพ.วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการบริหาร IFEC เร่งจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ IFEC ให้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อทำให้กระบวนการจดทะเบียนจัดตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ มีความสมบูรณ์ ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา แม้จะมีการไปยื่นจดทะเบียน แต่พบว่ามีการกรอกเอกสารไม่ครบถ้วน ทำให้บอร์ดชุดใหม่ยังไม่มีอำนาจสมบูรณ์ตามกฎหมาย แม้ว่า นพ.วิชัยจะมีการเสนอรายชื่อบอร์ดชุดใหม่ ไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ไปแล้วก็ตาม
"ผมอยากขอให้ นพ.วิชัย เร่งดำเนินการจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ ไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้ถูกต้อง เพื่อให้บอร์ดชุดใหม่มีมีอำนาจที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับ IFEC ซึ่งจำเป็นต้องเร่งแก้ไข และกอบกู้ความเชื่อมั่นนักลงทุนกลับมาอีกครั้ง เพราะยิ่งปล่อยให้เนิ่นนานไปจะก่อให้เกิดความเสียหายบานปลายออกไปอีก ซึ่งหากคุณหมอรักบริษัทและมีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา ควรต้องเร่งดำเนินการกระบวนการต่างๆ ให้จบโดยเร็ว เพื่อจำกัดวงของความเสียหายให้ยุติโดยเร็วที่สุด"
นายทวิช กล่าวอีกว่า เขาพร้อมที่จะร่วมบริหารงานใน IFEC ร่วมกับนพ.วิชัย อยู่แล้ว เพื่อกอบกู้วิกฤติที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข
อย่างไรก็ตาม หากกระบวนการจดทะเบียนจัดตั้งบอร์ดใหม่ยิ่งยื้อย่อมไม่ส่งผลดีกับ IFEC ซึ่งตอนนี้ยังเชื่อมั่นว่านพ.วิชัย จะเร่งดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะที่ผ่านมา นพ.วิชัยได้ยืนยันตลอดมาว่าต้องการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นใน IFECโดยเร็ว อีกทั้งมีสัดส่วนการถือหุ้นใน IFEC เพียง 2-3% เท่านั้น ตาม