โตโยต้าแจ้งยอดจำหน่ายรถยนต์ 7 เดือน 142,586 คัน ประคองตัวเติบโตต่อเนื่อง 39.3% ในขณะที่ เดือนกรกฎาคม 20,247 คัน เพิ่มขึ้น 20.2% จากปีที่แล้ว

ข่าวยานยนต์ Wednesday August 16, 2000 17:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--16 ส.ค.--โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานยอดจำหน่ายรถยนต์ ในเดือนกรกฎาคม 2543 ด้วยยอดจำหน่ายรวม 20,247 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 20.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2542 ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรถยนต์ 7 เดือนแรกของปีนี้ มียอดจำหน่ายรวม 142,586 คัน อัตราการเจริญเติบโต เพิ่มขึ้น 39.3% โดยใน 7 เดือนมียอดการจำหน่ายของรถยนต์เพื่อการพาณิชย์รวม 95,777 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 33.6% ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งรวม 46,809 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 52.8% และยอดจำหน่ายรถกระบะขนาด 1 ตัน รวม 81,292 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 32.6%
เฉพาะเดือนกรกฎาคมมียอดจำหน่ายรถยนต์รวม 20,247 คัน จำแนกออกเป็น ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่ง 6,574 คัน เติบโต 24.1% ยอดจำหน่ายรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 13,673 คัน เติบโต 18.4% และยอดจำหน่ายรถกระบะ ขนาด 1 ตัน 11,749 คัน เติบโต 19.8% อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมนี้ ลดลง 13.4% หากเทียบกับ เดือนมิถุนายน 2543 ซึ่งขายได้ 23,368 คัน
ประเด็นสำคัญ
(1) เหตุผลสำคัญที่ทำให้ยอดจำหน่ายยังอยู่ในแนวโน้มของการเติบโตอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาเดือนต่อเดือนคือ กิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทรถยนต์ต่างต่าง ๆ ที่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องไม่ขาดช่วง โดยเฉพาะการเสนอ ให้ดอกเบี้ยและเงินดาวน์ต่ำ ระยะการผ่อนชำระนาน รวมทั้งเงื่อนไขพิเศษ การตรวจซ่อม เช่น ค่าแรงฟรี ค่าอะไหล่ราคาพิเศษ เป็นต้น
(2) การปรับรูปโฉมโดยใส่อุปกรณ์ตกแต่ง รวมไปถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยตรงกับลูกค้า เช่น กิจกรรมชิงรางวัลของชำรวยที่มีมูลค่าสูง 10,000 - 20,000 บาท เป็นปัจจัยเร่งให้มีการซื้อเพิ่มขึ้น
(3) อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ในระยะสั้นน่าจะมีผลต่อการ ระมัดระวังในการใช้รถอย่างมีเหตุผลมากขึ้น แต่ถ้าสถานะการณ์ของราคาน้ำมัน ยังอยู่ในภาวะเช่นนี้ คาดว่าในระยะยาวอาจจะมีผลต่อการชะลอตัดสินใจซื้อรถ ของผู้บริโภค
(4) อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจมีผล ต่อต้นทุนการผลิตและราคารถยนต์ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น การปรับราคาหลายค่าย อาจยังไม่สามารถทำได้เต็มที่ตามข้อเท็จจริงของต้น ทุนการผลิต เนื่องจากผู้ผลิตยังคำนึงถึงผลกระทบที่จะมีต่อยอดการจำหน่าย
อนึ่ง แม้ว่าสถานการณ์ทั่วไปในช่วงไตรมาศที่ 2 เป็นต้นมา จะทำให้หลายค่าย เริ่มไม่มั่นใจกับเป้าหมายยอดขายรวมในปีนี้ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ยอดจำหน่าย7 เดือน 142,586 คัน ได้บรรลุเกิน 50% ของเป้าหมายทั้งปี 280,000 คัน ไปแล้ว
1) สรุปยอดการจำหน่ายรถยนต์ของเดือนกรกฎาคม 2543
1.1 ตัวเลขการจำหน่ายรวม จำนวน 20,247 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.2 ของช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว
อันดับที่ 1 โตโยต้า 5,450 คัน ลดลง 13.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 26.9 % อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,905 คัน เติบโต 26.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.2 %อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,458 คัน เติบโต 43.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.1 %
1.2 ตลาดรถยนต์นั่ง จำนวน 6,574 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.1
อันดับที่ 1 ฮอนด้า 2,131 คัน เติบโต 51.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.4 %อันดับที่ 2 โตโยต้า 2,107 คัน ลดลง 0.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.1 %อันดับที่ 3 นิสสัน 819 คัน เติบโต 10.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.5 %
1.3 ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 11,749 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.8
อันดับที่ 1 อีซูซุ 4,479 คัน เติบโต 24.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 38.1 %อันดับที่ 2 โตโยต้า 2,923 คัน ลดลง 24.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.9 %อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,858 คัน เติบโต 74.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 15.8 %
1.4 ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ จำนวน 13,673 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.4
อันดับที่ 1 อีซูซุ 4,901 คัน เติบโต 27.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.8 %อันดับที่ 2 โตโยต้า 3,343 คัน ลดลง 20.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.4 % อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 1,994 คัน เติบโต 61.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 14.6 %
2) สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์ใน 7 เดือนแรกของปี 2543 (มกราคม - กรกฎาคม)
2.1 ตัวเลขการจำหน่ายรถยนต์รวม จำนวน 142,586 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 39.3
อันดับที่ 1 โตโยต้า 41,109 คัน เติบโต 19.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 28.8 %อันดับที่ 2 อีซูซุ 31,535 คัน เติบโต 28.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 22.1 %อันดับที่ 3 ฮอนด้า 16,297 คัน เติบโต 51.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.4 %
2.2 ตลาดรถยนต์นั่ง จำนวน 46,809 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 52.8
อันดับที่ 1 โตโยต้า 17,106 คัน เติบโต 70.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 36.5 %อันดับที่ 2 ฮอนด้า 13,809 คัน เติบโต 52.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 29.5 %อันดับที่ 3 นิสสัน 6,357 คัน เติบโต 90.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 13.6 %
2.3 ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน จำนวน 81,292 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.6
อันดับที่ 1 อีซูซุ 29,164 คัน เติบโต 27.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.9 %อันดับที่ 2 โตโยต้า 21,152 คัน ลดลง 6.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 26.0 %อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 12,700 คัน เติบโต 101.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 15.6 %
2.4 ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ จำนวน 95,777 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.6
อันดับที่ 1 อีซูซุ 31,454 คัน เติบโต 30.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.8 %อันดับที่ 2 โตโยต้า 24,003 คัน ลดลง 2.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 25.1 %อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ 13,658 คัน เติบโต 84.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 14.3 %
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์และกิจกรรมสังคม สำนักงานใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดโทร. 386-1000, โทรสาร 386-1891, 386-1893--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ