ปภ.แนะประชาชนตรวจสอบและดูแลรักษาอุปกรณ์ประจำรถ...เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางช่วงฤดูร้อน

ข่าวทั่วไป Tuesday March 14, 2017 11:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะวิธีตรวจสอบดูแลอุปกรณ์ประจำรถ เพื่อให้การเดินทางในช่วงฤดูร้อนเป็นไปด้วยความปลอดภัย โดยเลือกติดฟิลม์กรองแสงที่ได้มาตรฐาน หมั่นทำความสะอาดกระจกรถอยู่เสมอรวมถึงตรวจสอบสภาพบางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ตลอดจนตรวจสอบน้ำในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและในขณะขับรถควรสังเกตเข็มวัดระดับความร้อนบนหน้าปัดรถยนต์ เพราะหากค่าความร้อนสูง จะทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด ส่งผลให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายได้ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระยะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วการขับรถในช่วงฤดูร้อนซึ่งมีสภาพอากาศร้อนและแสงแดดแรงจัดกว่าฤดูกาลอื่น ทำให้ผู้ขับขี่มีสายตาพร่ามัวและเกิดอาการง่วงนอนง่ายกว่าปกติ อีกทั้งการไม่ดูแลอุปกรณ์ประจำรถและเครื่องยนต์ให้พร้อมใช้งาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ขอแนะวิธีตรวจสอบและดูแลรักษาอุปกรณ์ประจำรถยนต์ เพื่อให้การเดินทางในช่วงฤดูร้อนเป็นไปด้วยความปลอดภัย ดังนี้ เลือกติดตั้งฟิลม์กรองแสง ที่ได้มาตรฐานซึ่งมีคุณสมบัติในการลดความร้อนและสะท้อนแสงในระดับที่เหมาะสม จะช่วยลดความจ้าและกรองความสว่างของแสงอาทิตย์ ที่ทำให้ผู้ขับขี่ต้องเพ่งสายตามองเส้นทาง ส่งผลให้ง่วงนอนง่ายกว่าปกติ อีกทั้งไม่ควรติดตั้งฟิลม์กรองแสงที่สะท้อนแสงมากเกินไปเพราะแสงแดดจะทำมุมกับกระจกรถและสะท้อนเข้าตาผู้ขับรถรายอื่น ทำให้สายตาพร่ามัว ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้หมั่นทำความสะอาดกระจกหน้าและหลังรถอยู่เสมอ โดยฉีดน้ำยาเช็ดกระจกแล้วใช้ผ้าแห้งกระดาษหนังสือพิมพ์ทำความสะอาดกระจกแล้วเปิดใบปัดน้ำฝนเช็ดทำความสะอาดกระจกโดยเติมน้ำยาทำความสะอาดหรือแชมพูลงไปในกระปุกน้ำฉีดกระจกเล็กน้อย จะช่วยชะล้างคราบสกปรกและฝุ่นละอองได้สะอาดมากขึ้น ทำให้มองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน แต่ไม่ควรใช้ที่ปัดน้ำฝนทำความสะอาดในขณะที่กระจกแห้ง เพราะจะทำให้กระจกเป็นรอยขูดขีด ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง ตรวจสอบยางรถยนต์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ เพราะช่วงฤดูร้อนผิวถนนมีอุณภูมิสูงกว่าปกติ ทำให้อากาศภายในยางรถยนต์ขยายตัว ส่งผลให้ยางเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติและเสี่ยงต่อการระเบิดได้ ที่สำคัญ การขับรถในช่วงที่อากาศร้อนประกอบกับการจราจรติดขัด ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดได้ หม้อน้ำจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยระบายความร้อน ส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานได้ตามปกติ ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบน้ำในหม้อน้ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่พร่องหรือต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อป้องกันเครื่องยนต์ร้อนจัด โดยเฉพาะรถที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปี ควรตรวจสอบเป็นประจำทุกสัปดาห์ และหมั่นเติมน้ำสะอาดเมื่อน้ำเริ่มพร่องขณะขับรถควรสังเกตเข็มวัดระดับความร้อนบนหน้าปัดรถยนต์ ซึ่งมีค่าระหว่างCOLD (C) กับ HOT (H) หากระดับน้ำในหม้อน้ำพร่อง ค่าความร้อนจะสูงขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด ส่งผลให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายได้ ทั้งนี้ การแก้ไขกรณีหม้อน้ำแห้งขณะที่เครื่องยนต์กำลังทำงาน ผู้ขับขี่ไม่ควรฝืนขับรถไปต่อ เพราะอาจเกิดอันตรายมากขึ้น ให้นำรถจอดริมข้างทางในบริเวณที่ปลอดภัย ไม่ควรดับเครื่องยนต์และเติมน้ำในหม้อน้ำทันทีให้ติดเครื่องยนต์เดินเบาสักระยะ พร้อมเปิดฝากระโปรงหน้ารถ รอจนอุณภูมิลดลงและเครื่องยนต์เริ่มเย็นตัว จึงเปิดฝาหม้อน้ำแล้วค่อยๆเติมน้ำสะอาดลงไปทีละน้อยที่สำคัญห้ามเปิดฝาหม้อน้ำในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัด เพราะจะได้รับอันตรายจากไอน้ำที่พุ่งขึ้นมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ