กรุงเทพฯ--14 มี.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 13 มีนาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,203.17-1,211.16 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,250 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ17 อยู่ที่ 20,330 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,180 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.21 น.ของวันที่ 13/03/2560)
แนวโน้มวันที่ 14 มีนาคม 2560
ผู้กำหนดนโยบายบางคนของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) พูดถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนที่มาตรการเข้าซื้อพันธบัตรหรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของอีซีบีจะสิ้นสุดลง ประเด็นดังกล่าว ดันราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะสั้นตามสกุลเงินยูโรที่ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ประกอบกับ ดอลลาร์สหรัฐถูกถ่วงลงหลังข้อมูลรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงในสหรัฐปรับขึ้นเพียง 6 เซนต์ หรือ 0.2 % ในเดือนก.พ. ซึ่งเพิ่มขึ้นขึ้นน้อยกว่าคาด โดยดัชนีดอลลาร์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. และ ลดลง 0.34% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การขยับขึ้นของราคาทองคำยังคงจำกัดหลังจาก เพราะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดที่เพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่ง และ อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.7% ตามคาดในเดือนก.พ. ได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมกันทั้งหมด 3 ครั้งในปี 2560 ซึ่งสอดคล้องกับสัญญาอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นล่วงหน้าบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่ามีโอกาส 93%ในเดือนนี้ ขณะที่รอยเตอร์สำรวจความเห็นบริษัทดีลเลอร์ชั้นนำ 23 แห่ง และผลสำรวจพบว่า บริษัท 12 แห่งคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ 1.00-1.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และบริษัท 10 แห่งคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.ซึ่งนักลงทุนได้มุ่งความสนใจไปยังการส่งสัญญาณที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในเดือนมิ.ย.และในเดือนก.ย.ด้วยหรือไม่ วายแอลจีเชื่อว่าราคาทองคำจะยังคงผันผวนต่อเนื่อง ทำให้การเข้ามาลงทุนในทองคำต้องใช้ความระมัดระวัง ดังนั้นนักลงทุนควรปรับรูปแบบการลงทุนเพื่อให้เหมาะสมกับการแกว่งตัวของราคา โดยเฉพาะนักลงทุนไม่ควรลงทุนมากเกินไป
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยให้แนะนำให้รอการตั้งฐานของราคาทองคำ แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากแนะนำให้รอจังหวะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,194 หรือ 1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,219 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านได้ให้รอขายทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,228 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาที่เหวี่ยงตัวอย่างรุนแรงจะทำให้นักลงทุนที่ลงทุนมากเกินไปหรือไม่มีแผนในการลงทุนที่ชัดเจนจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,194 (19,900บาท) 1,187 (19,800บาท) 1,180 (19,700บาท)
แนวต้าน 1,219 (20,400บาท) 1,228 (20,500บาท) 1,237 (20,700บาท)
GOLD FUTURES (GFJ17)
แนวรับ 1,194 (20,100บาท) 1,187 (20,000บาท) 1,180 (19,850บาท)
แนวต้าน 1,219 (20,500บาท) 1,228 (20,650บาท) 1,237 (20,800บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999