ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนลติดหนึ่งใน 100 สุดยอดองค์กรเจ้าของสิทธิบัตร ตอกย้ำความเป็นองค์กรนวัตกรรมเพื่อร่วมสร้างสังคมปลอดบุหรี่

ข่าวทั่วไป Wednesday March 15, 2017 17:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง องค์การสิทธิบัตรแห่งยุโรป (The European Patent Office: EPO) เผยรายชื่อ 100 องค์กรที่ยื่นขอสิทธิบัตรในปี2559 โดยฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล อิงก์ (พีเอ็มไอ) ติดอันดับที่ 63 ร่วมกับบริษัทนวัตกรรมชื่อดัง อาทิ กูเกิ้ล ซัมซุง ไมโครซอฟท์ แอร์บัส และเป็นบริษัทยาสูบเพียงรายเดียวที่มีรายชื่ออยู่ในรายงานประจำปี 2559 ของ EPO พีเอ็มไอเพิ่งประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมยาสูบ ด้วยการมุ่งมั่นร่วมสร้างสังคมปลอดควันบุหรี่ โดยนับตั้งแต่ปี 2551 พีเอ็มไอใช้เงินลงทุนกว่า 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (105,000 ล้านบาท) และทีมนักวิจัยกว่า 400 คน เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยง (Reduced-Risk Products) และเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ www.pmi.com เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ยาสูบที่อาจจะมีศักยภาพในการลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ให้กับตัวผู้สูบและสังคมโดยรวม มร. มิเชล คัตโตนี รองประธานกรรมการฝ่ายเทคโนโลยีและปฏิบัติการ พีเอ็มไอ เปิดเผยว่า "การวิจัยและพัฒนาทางวิทยาศาสตร์เป็นส่วนสำคัญที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะทำให้ผู้สูบบุหรี่ผู้ใหญ่ทั่วโลกมีผลิตภัณฑ์ทางเลือกหลากหลายที่นำมาใช้ทดแทนบุหรี่ได้ สิทธิบัตรที่ได้รับมาช่วยยืนยันว่าเราได้เข้าใกล้เป้าหมายในการสร้างสังคมปลอดควันบุหรี่" สิทธิบัตรกว่า 1,800 รายการ และอีกกว่า 4,000 รายการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาออกสิทธิบัตรนั้น เกิดจากการค้นพบระหว่างการทำวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงนวัตกรรมที่ให้ความร้อนแก่ใบยาสูบแทนการเผาไหม้ วิธีการใหม่ในการให้ความร้อนแก่น้ำยาเหลวของบุหรี่ไฟฟ้า และกระบวนการในการผลิต นายพงศธร อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด เปิดเผยเพิ่มเติมว่า "ฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพีเอ็มไอทุ่มเทกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ซิกาแรตแบบธรรมดาบนหลักการของการกำจัดการเผาไหม้ของยาสูบ ในขณะเดียวกันก็ตอบสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคที่เป็นผู้ใหญ่ทั่วโลก และเราได้นำเสนอผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์กับผู้ออกกฎระเบียบและนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก ซึ่งเราเห็นว่าการนำเทคโนโลยียุคดิจิทัลเข้ามาช่วยแก้ปัญหาในสังคมมีความสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล เราอยากให้การกำหนดนโยบายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาสูบในอนาคตคำนึงถึงทางเลือกใหม่ในการลดอันตรายจากยาสูบเพื่อช่วยให้เกิดประโยชน์ในสังคมมากที่สุด" ปัจจุบัน ผู้สูบบุหรี่ในต่างประเทศกว่า 1.4 ล้านคนเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยง และพีเอ็มไอมีเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นสามารถมาแทนที่บุหรี่แบบดั้งเดิมได้ในอนาคต จนถึงขณะนี้ ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เพื่อประเมินศักยภาพในการลดความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ