ลงทุนอย่างไร ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น 'แอล เอช ฟันด์’ เปิดตัวกองทุนใหม่ 'LHSTPLUS’ เตรียม IPO 20-28 มี.ค.60 เน้นลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นในไทยและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 20, 2017 10:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--เอ็มที มัลติมีเดีย แอล เอช ฟันด์ คาดเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3-4 ครั้งในปีนี้ กดดันให้อัตราดอกเบี้ยตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวของไทยปรับตัวขึ้นไปในทิศทางเดียวกับเฟด ส่งผลกระทบให้การลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวมีความเสี่ยงจากราคาตราสารหนี้ที่มีโอกาสปรับลดลง ผู้บริหารแอล เอช ฟันด์ แนะนำลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยงจากราคาตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ที่มีโอกาสปรับลดลง พร้อมเปิดตัวกองทุน 'LHSTPLUS' มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท IPO วันที่ 20-28 มี.ค.60 นี้ เน้นลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศ ที่มีผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่ดี เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนและพักเงินในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด หรือ แอล เอช ฟันด์ เปิดเผยว่า ทิศทางอัตราดอกเบี้ยระยะกลาง-ยาวของไทยมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่เกิดจากเศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้ จากแนวโน้มการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะส่งผลให้ราคาของตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว มีความเสี่ยงที่ราคาซื้อ/ขายในตลาดอาจปรับลดลง และมีผลต่อการบันทึกบัญชี (Mark to Market) ด้วย จึงแนะนำนักลงทุนลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว โดยเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นแทน และเมื่ออัตราดอกเบี้ยระยะกลาง-ยาวสะท้อนปัจจัยลบต่างๆ อาทิ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ความกังวลต่ออัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปแล้ว จึงค่อยกลับมาลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว อีกครั้งหนึ่ง ล่าสุด แอล เอช ฟันด์ เปิด IPO 'กองทุนเปิด แอล เอช ตราสารหนี้ระยะสั้น พลัส' (LHSTPLUS) ในวันที่ 20-28 มีนาคม 2560 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยกองทุนเปิด LHSTPLUS มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีอายุเฉลี่ยตราสารหนี้ในพอร์ตลงทุนไม่เกิน 1ปี เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของมูลค่าหน่วยลงทุนต่อหน่วย (NAV) นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวจะกระจายการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีผลการดำเนินงานและฐานะการเงินที่ดีรวมถึงลงทุนตราสารหนี้ในต่างประเทศ ซึ่งจะมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศเต็มจำนวนเพื่อเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดี สามารถซื้อ-ขายคืนได้ทุกวันทำการ และได้รับเงินค่าขายคืนในวันที่ทำรายการขายคืน +1 วันทำการ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ