เสริมแนวรุกการใช้อำนาจนายทะเบียนฯ กำกับ-ส่งเสริม-ดูแลสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร

ข่าวทั่วไป Friday March 24, 2017 14:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์เดินหน้าสร้างแนวรุก ด้วยการกำหนดกรอบการใช้อำนาจนายทะเบียนสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรอย่างใกล้ชิด แนะการรับจดทะเบียนสหกรณ์ต้องพิจารณาด้วยความเหมาะสม เพราะเป็นกลไกสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการสหกรณ์ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปตามกฎเกณฑ์ นายใหญ่แห่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ย้ำด้วยว่า ขอให้ปฏิบัติงานอย่างรอบคอบและยุติธรรม ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงการใช้อำนาจนายทะเบียนสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรว่า อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะเป็นนายทะเบียนสหกรณ์ตามกฎหมาย มีอำนาจในการดูแลสหกรณ์และเกษตรกรให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ข้อบังคับและคำสั่งต่างๆ ที่ว่าด้วยการสหกรณ์ โดยเรื่องของการใช้อำนาจ การปฏิบัติตามข้อบังคับ การปฏิบัติตามระเบียบคำสั่งที่กรมออกมากำกับดูแลสหกรณ์และเกษตรกร จะช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกต้องและส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของสหกรณ์ ซึ่งการดำเนินงานของสหกรณ์ที่ผ่านมานั้นมีความแตกต่างจากการดำเนินงานของสหกรณ์สมัยนี้ ทั้งเรื่องของความรู้ ข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยีสารสนเทศและสิ่งเร้าที่เกิดขึ้นกับบุคคลที่หมุนเวียนเปลี่ยนเข้ามาในกลไกของสหกรณ์ ทุกวันนี้สหกรณ์ถูกมองว่า เป็นสถานที่ในการหาประโยชน์ เป็นสถานที่ของการสร้างกำไร เป็นสถานที่ของการหนี้ภาษี เป็นสถานที่ของการฟอกเงิน จึงมีแต่จะเข้ามาดำเนินการในรูปแบบของสหกรณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของนายทะเบียนสหกรณ์โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในการใช้อำนาจหน้าที่ เพื่อเข้ามาช่วยดูแล แก้ปัญหาของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การใช้อำนาจนายทะเบียนสหกรณ์ของผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมสหกรณ์ กรุงเทพมหานคร พื้นที่ ๑, พื้นที่ ๒ และสหกรณ์จังหวัดในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ได้รับมอบอำนาจจากนายทะเบียนสหกรณ์ ในการรับจดทะเบียนสหกรณ์ ชุมนุมสหกรณ์ ควบสหกรณ์ แยกสหกรณ์และเปลี่ยนฐานะกลุ่มเกษตรกรเป็นสหกรณ์ เรื่องของการให้ความเห็นชอบ ระเบียบรับฝากเงิน ระเบียบการให้เงินกู้แก่สหกรณ์อื่น วงเงินกู้ยืมหรือค้ำประกันและการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง ซึ่งต้องพิจารณาการใช้อำนาจหน้าที่ด้วยความเหมาะสมและเกิดความสมดุล เช่นเดียวกับ การแต่งตั้งผู้ตรวจการสหกรณ์และพิจารณารายงานการตรวจสอบ อีกทั้งมีอำนาจในการสั่งเลิก การชำระบัญชี การกำกับผู้ชำระบัญชีและการถอนชื่อสหกรณ์ ซึ่งกลไกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์มีความสำคัญมาก ในการทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามกฎเกณฑ์ ขณะที่ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์มีบทบาทสำคัญในการใช้อำนาจนายทะเบียนสหกรณ์ ในการ สั่งให้คณะกรรมการดำเนินการพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะหรือเป็นรายบุคคล เช่นเดียวกับที่แต่งตั้งคณะกรรมการชั่วคราวและการแต่งตั้งสมาชิกสหกรณ์ เป็นกรรมการดำเนินการแทนตำแหน่งที่ว่างลง รวมถึงการเข้าไปดูแลช่วยเป็นพี่เลี้ยง เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนให้การใช้อำนาจนายทะเบียนสหกรณ์ ก้าวพ้นอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคในเรื่องของสมาชิกสมทบว่าอายุของสมาชิกสมทบเป็นไปตามกฎเกณฑ์ไหมและการถือหุ้นเป็นไปโดยชอบตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ ในส่วนของปัญหาการใช้อำนาจนายทะเบียนสหกรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กล่าวไว้ ๔ ประเด็นสำคัญๆว่า ๑.จากการรับจดทะเบียนสหกรณ์ เช่น การวิเคราะห์แผนดำเนินธุรกิจว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ การตรวจสอบคุณสมบัติ อาชีพและอายุของสมาชิก การถือหุ้นของสมาชิกเกินกว่าหนึ่งในห้าของมูลค่าหุ้นทั้งหมดหรือไม่ ๒.การรับจดทะเบียนข้อบังคับ ได้แก่ การรายงานต่อนายทะเบียนสหกรณ์เกินกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด การตรวจสอบเนื้อหาข้อบังคับ การกำหนดวัตถุประสงค์และอำนาจกระทำการ การกำหนดคุณสมบัติสมาชิกและสมาชิกสมทบและการใช้ดุลพินิจในการไม่รับจดทะเบียน เช่นเดียวกับ ๓.การตรวจการสหกรณ์ ทั้งในส่วนของความสำคัญกับภารกิจการตรวจสหกรณ์ การทำงานร่วมกันเป็นทีมสร้างการรับรู้ร่วมกัน การวางแผนในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและการรวบรวมเอกสารหลักฐาน เพื่อใช้ในการตรวจสอบและออกคำสั่ง ซึ่งทางสหกรณ์จังหวัดต้องเป็นกลไกสำคัญในการดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบอยู่ ทั้งนี้จึงต้องมีความรู้รอบด้าน ทั้งด้านงานสหกรณ์และงานด้านนโยบายและ ๔.การออกคำสั่ง รูปแบบ ความชัดเจนของการออกคำสั่งให้ใช้ตามที่กำหนด ข้อเท็จจริงต่างๆ ที่นำมาอ้าง บางครั้งขาดความชัดเจนหรือมีการออกคำสั่งบ่อยครั้งและใช้มาตราเดิม และปัญหาที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การออกคำสั่งนั้นมีความเป็นได้น้อย ในการปฏิบัติตามคำสั่งได้ทันหรือออกคำสั่งไม่ทันต่อเหตุการณ์นั่นเอง อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้กล่าวทิ้งท้ายการปฏิบัติงานอย่างมีหลักการด้วยว่า ขอเน้นย้ำว่ารองนายทะเบียนสหกรณ์ต้องรอบรู้ ต้องทันต่อเหตุการณ์ ต้องรอบคอบ ต้องถูกต้อง แม่นยำในการออกคำสั่ง ตรงประเด็นในการตอบปัญหา สำคัญที่สุดคือยุติธรรมกับทุกฝ่าย ใครผิดก็ว่าตามผิด ดูแลคนให้ทั่วถึงและต้องยุติธรรม ในการนำมาซึ่งการยอมรับนับถือให้ได้ ทำให้ประชาชนเชื่อและศรัทธา อย่าไปอยู่กับข้างใดข้างหนึ่ง จนลืมความเป็นตัวตนของการเป็นนายทะเบียนสหกรณ์ อย่าลืมตัวตนของการเป็นข้าราชการของพระเจ้าอยู่หัว ทั้ง ๒ รัชกาลคือ ร.๙ และ ร.๑๐ เพราะท่านให้ความห่วงใยทุกคน จึงอยากขอฝากไว้กับทุกท่านด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นเกราะคุ้มครองให้กับท่านในทุกๆ เรื่องและเป็นลมใต้ปีกที่หนุนท่านให้เจริญเติบโตอย่างสวยงาม
แท็ก เกษตรกร  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ