กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย กยท. เปิดตัว ยางล้อประชารัฐ ภายใต้แบรนด์ TH-TYRE หวังให้คนไทยได้ใช้สินค้าดี ได้มาตรฐาน ISO และ มอก. ราคายุติธรรม ทั้งยังส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยก้าวหน้าต่อไป

ข่าวทั่วไป Wednesday April 5, 2017 18:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายในการผลักดันส่งเสริมการใช้ยางพาราในประเทศให้มากขึ้น เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตยางธรรมชาติส่งออกรายใหญ่ของโลก อีกทั้งยังเป็นการผลักดันให้เกิดการแปรรูปในการนำยางพารามาผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และราคาถูก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย การยางแห่งประเทศไทย จึงได้ริเริ่มโครงการยางล้อประชารัฐ ภายใต้แบรนด์ TH-TYRE ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่จะนำยางพาราไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศยังมีแนวโน้มจะเติบโตขึ้นในช่วงปี 2560 เนื่องจากตลาดส่งออกได้มีการขยายสู่ภูมิภาคอาเซียนตามแผนการส่งออกรถอีโคคาร์ จากเงื่อนไขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น ดังนั้น หากนำยางพาราธรรมชาติไปผลิตล้อยางที่มีส่วนผสมของยางพาราเพิ่มขึ้น จะสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ และยังเป็นการส่งออกวัตถุดิบยางประเภทต่าง ๆ เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมอีกด้วย ดร. ธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ธุรกิจยานยนต์เป็นธุรกิจที่ใช้วัตถุดิบจากยางพาราเป็นจำนวนมาก และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไทยมีผลผลิตยางถึง 4.47 ล้านตัน สามารถนำไปใช้ภายในประเทศประมาณ 0.6 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 13.42 ของผลผลิตทั้งหมด และยางส่วนใหญ่ถูกใช้ในการผลิตยางพาหนะ 0.34 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 56.48 ของปริมาณยางทั้งหมด กยท. จึงร่วมมือ บ.ดีสโตน ผลักดันการแปรรูปใช้ยางในประเทศเพื่อนำยางพารามาผลิตล้อยางรถยนต์ ในโครงการยางล้อประชารัฐ ภายใต้แบรนด์ TH-TYRE ซึ่งในปัจจุบันยางที่ใช้ในการผลิตล้อยางทั่วไปเป็นยางพาราธรรมชาติ 10 % แต่ยางในโครงการยางล้อประชารัฐ หรือ TH-TYRE จะใช้ยางพาราธรรมชาติประมาณ 45 % โดย TH-TYRE จะผลิตล้อยางที่สามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้ยานพาหนะ 2 ประเภท ประกอบด้วย 1. ยางล้อรถมอเตอร์ไซค์ 2. ยางล้อรถรถยนต์ (แท็กซี่ รถตู้ รถกระบะ) สิ่งสำคัญคือ ผู้บริโภคจะได้ใช้ล้อยางที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล (ISO) และผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่น คงทน และใช้งานได้ยาวนาน ที่สำคัญคือราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปถึง 20-30 % นอกจากนั้นยังดีต่อเกษตรกรและยังเป็นการนำเอายางพารามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจล้อยางแบรนด์ TH-TYRE สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ กยท. ทุกสาขาทั่วประเทศ และ ตัวแทนจำหน่ายยางดีสโตนกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ โดย TH-TYRE จะพร้อมวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ จึงอยากเชิญชวนให้คนไทยสนับสนุนเกษตรกรไทย ใช้สินค้าไทย เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยก้าวหน้าต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ