ปภ.แนะผู้ขับขี่ปฏิบัติตามหลัก “4 ห้าม 2 ต้อง”...เดินทางปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2560

ข่าวทั่วไป Tuesday April 11, 2017 20:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ใช้รถใช้ถนนยึดการปฏิบัติตามหลัก "4 ห้าม 2 ต้อง" เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2560 ดังนี้ 4 ห้าม...ห้ามขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ห้ามดื่มแล้วขับ เพราะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง ไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้อย่างปลอดภัย ห้ามโทรแล้วขับ เพราะส่งผลต่อสมาธิและประสิทธิภาพในการขับรถ หากจำเป็นให้ใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ ง่วงห้ามขับ ควรหยุดพักรถทุก 2 ชั่วโมง เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ - 2 ต้อง...ต้องสวมหมวกนิรภัย และต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถ จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยว ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ใช้รถใช้ถนนยึดการปฏิบัติตามหลัก "4 ห้าม 2 ต้อง" ดังนี้ 4 ห้าม ได้แก่ 1. ห้ามขับรถเร็ว โดยผู้ขับขี่ไม่ควรขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วบนเส้นทางอย่างเคร่งครัด ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ ปริมาณการจราจร และทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทาง รวมถึงลดความเร็วลงเมื่อขับผ่านชุมชน เส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ หรือทัศนวิสัยไม่ดี หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถหยุดรถได้ทัน 2. ห้ามเมาแล้วขับ โดยไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ เพราะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลงและไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินเฉพาะหน้าได้อย่างปลอดภัย หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรให้ผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ขับรถแทน ใช้บริการรถแท็กซี่หรือรถโดยสารสาธารณะ กรณีไม่มีเพื่อนร่วมทาง ควรรอจนสร่างเมาค่อยขับรถกลับบ้าน 3. ห้ามโทรแล้วขับรถ โดยไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เนื่องจากต้องละสายตาจากเส้นทาง จึงส่งผลต่อสมาธิและประสิทธิภาพในการขับรถ หากจำเป็นให้ใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ แต่ไม่ควรคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน หรือให้เพื่อนที่ร่วมเดินทางรับโทรศัพท์แทน 4. ง่วงห้ามขับ ควรหยุดพักรถทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะทาง 150 – 200 กิโลเมตร โดยจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถหรือพักหลับประมาณ 10 – 15 นาที ห้ามฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ 2 ต้อง ได้แก่ 1. ต้องสวมหมวกนิรภัย ทุกครั้งที่ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบที่มีขนาดพอดีกับศีรษะ พร้อมคาดสายรัดคางให้กระชับ เพื่อป้องกันหมวกหลุดเมื่อประสบอุบัติเหตุ รวมถึงใช้ความเร็วในการขับรถไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเป็นระดับความเร็วที่หมวกนิรภัยสามารถรองรับแรงกระแทกได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยป้องกันการบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ 2.ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ทุกครั้งที่เดินทาง ผู้ขับขี่และผู้โดยสารควรคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกวิธี โดยให้สายเข็มขัดพาดผ่านสะโพกและหัวไหล่ พร้อมปรับระดับความตึงให้กระชับ สายไม่พลิกหรือบิดงอ จะช่วยฉุดรั้งผู้ประสบเหตุมิให้กระแทกกับอุปกรณ์ต่างๆ หรือผู้โดยสารอื่นภายในรถ ทั้งนี้ การปฏิบัติตามหลัก "4 ห้าม 2 ต้อง" การปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด การมีวินัยในการใช้รถใช้ถนน และการมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง จะทำให้ทุกการเดินทางเต็มเปี่ยมด้วยความสุขและถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ