กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--สถานีโทรทัศน์ช่อง 8
วันจันทร์ที่ 10 เมษายน 2560
มหาราชชนกบิดาของสีดาเสด็จมาเมืองอโยธยาหลังทราบข่าวเรื่องมหาราชทศรถสวรรคต และทรงสนับสนุนพระพรตในการออกไปตามหาพระรามในป่า เพื่อให้กลับมาครองราชย์เป็นกษัตริย์อโยธยาคนต่อไป พระพรต พระสัตรุต มหาราณีเกาสุริยา และทุกๆ คน ตัดสินใจเดินทางไปพบพระราม สีดา และพระลักษณ์ ในป่า เพื่อแจ้งข่าวเรื่องการสวรรคตของมหาราชทศรถแก่พระรามและพระลักษณ์ ทำให้พระรามและพระลักษณ์ทรงเศร้าโศกเสียใจอย่างมาก
วันอังคารที่ 11 เมษายน 2560
พระนางไกรเกษียอมปลดปล่อยพระรามจากคำสัญญาใดๆ เพื่อคืนอิสระแก่พระรามให้กลับไปคืนครองราชย์ แต่พระรามก็ยังยืนยันต้องทำตามคำสัญญาของเสด็จพ่อทศรถที่ให้ไว้แก่พระมเหสีไกรเกษี ในการอยู่ต้องอยู่ในป่าเป็นเวลา 14 ปี หลังจากที่ทุกคนกลับเมืองอโยธยาแล้ว พระราม พระสาแล้ว พระราม พระลักษณ์และสีดา จึงตกลงย้ายออกจากป่าที่เคยอยู่เพราะกลัวว่าทุกคนจะมาตามพระองค์ ทั้งหมดออกเดินทางไปในป่าและเจอภูเขาถล่ม ทำให้สีดาได้รับบาดเจ็บจากหินถล่มจากภูเขา
วันพุธที่ 12 เมษายน 2560
เจ้าหญิงสีดากำลังจะถูกนกยักษ์ทำร้ายในป่าเพราะได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กคนนึง แต่พระรามได้ช่วยไว้ทัน ซึ่งเหล่านกเหล่านั้นก็เป็นพวกอสูรที่ออกมาทำร้ายชาวบ้านและฤาษีในป่า พระราม พระลักษณ์ และสีดา จึงเดินทางร่วมกับเด็กชายเพื่อพากลับไปยังหมู่บ้านแต่ก็พบอุปสรรคมากมายจากพวกเหล่าอสูรร้าย ส่วนพระพรตเมื่อกลับเมืองอโยธยาก็ยังคงโศกเศร้าเลยได้แต่งกายชุดนักบวชเพื่อออกไปอยู่อาศรมในป่า ทำให้ทุกคนในวังไม่สบายใจขอร้องให้พระพรตขึ้นครองราชย์อโยธยาแต่พระองค์ไม่ยอม
วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน 2560
พระลักษณ์ ไม่ยอมนอนหลับเพราะต้องคอยปกป้องพระรามกับสีดาในป่า กลัวว่าจะมีเหล่าอสูรที่มาคอยทำร้าย จนทำให้นิทราเทวีทรงเป็นห่วงพระลักษณ์และต้องหาตัวแทนเพื่อมาทำหน้าที่ในการหลับแทนพระลักษณ์ ซึ่งพระลักษณ์ก็เลือกอูมิราภรรยาที่อยู่ในวัง ให้มาทำหน้าที่หลับแทนพระองค์เป็นเวลา 14 ปีจนกว่าพระองค์จะกลับไปถึงจะฟื้น พระสัตรุตเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นมหาราชกุมารสัตรุตเมืองอโยธยาแทนพระพรตในระหว่างที่ออกบวชอยู่ในอาศรม