เต็ดตรา แพ้ค จัดเวิร์คชอปยูเอชทีครั้งแรกในประเทศไทย ชี้โอกาสใหม่ของบรรจุภัณฑ์อาหารในอนาคต

ข่าวทั่วไป Tuesday May 9, 2017 12:15 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหารระดับโลก จัดกิจกรรมเวิร์คชอปทำอาหารด้วยผลิตภัณฑ์ยูเอชทีครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ธีม ''Moving Food Forward Together' เพื่อแนะนำหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งในปัจจุบัน โดยท้าทายเชฟมืออาชีพอย่าง เชฟกร กันตสิริวานิช Chef de Partie จากโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว ในการสร้างสรรค์เมนูคุณภาพ ด้วยวัตถุดิบหลักจากผลิตภัณฑ์ในกล่องบรรจุภัณฑ์ยูเอชที ทั้งที่มีจำหน่ายในไทยและที่นำเข้ามาจากทั่วโลก เพื่อชี้ให้เห็นถึงโอกาสของผลิตภัณฑ์ยูเอชทีในประเทศไทยที่ยังสามารถเติบโตได้ในอนาคต "เทคโนโลยีการผลิตและบรรจุในระบบยูเอชที ซึ่งถูกคิดค้นและพัฒนาโดยเต็ดตรา แพ้ค มากว่า 60 ปี เป็นนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนวิธีในการปกป้องอาหาร ผลิตภัณฑ์ยูเอชทีสามารถตอบโจทย์ความต้องการที่ที่เปลี่ยนไปของชีวิตประจำวันในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน โดยให้ทั้งความปลอดภัย รสชาติที่อร่อย และความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภค นอกเหนือจากประโยชน์ของผลิตภัณฑ์และการใช้งานที่ง่ายแล้ว เรามีความยินดีที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์ยูเอชทีใหม่ๆ ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ซุป น้ำเชื่อม น้ำมันสำหรับปรุงอาหาร และกาแฟ สู่ตลาดในประเทศไทยอีกด้วย" คุณวันชัย สุวรรณเนตร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย บริษัท เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย จำกัด กล่าว นอกจากอาหารและเครื่องดื่มที่ผลิตและบรรจุในระบบยูเอชทีแล้ว กิจกรรมครั้งนี้ยังนำเสนออาหาร เช่น ซอสพาสต้า ผลไม้ และข้าวโพด ที่บรรจุในกล่อง เต็ดตรา รีคาร์ต™ ซึ่งเป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ชนิดแรกของโลกที่สามารถนำอาหารผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อได้หลังจากที่บรรจุลงในกล่องแล้ว ข้อดีของอาหารที่บรรจุในกล่อง เต็ดตรา รีคาร์ต™ คือ สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิห้อง ได้นานถึง 24 เดือน หยิบจับและเปิดใช้ง่าย และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีผลิตและบรรจุด้วยระบบยูเอชที ให้ประโยชน์หลักทั้ง 6 ข้อ ดังนี้ 1. เครื่องดื่มและอาหารที่บรรจุภายในสะอาดและปลอดภัย สามารถบริโภคได้ทันที 2. คงคุณค่าสารอาหารและรสชาติไว้ได้ครบถ้วน 3. สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิห้องได้โดยไม่ต้องแช่เย็น 4. ไม่ใส่วัตถุกันเสีย 5. บรรจุภัณฑ์มีน้ำหนักเบา จึงประหยัดพลังงานในการขนส่งและการจัดเก็บ 6. สะดวกสบาย สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ทุกเวลา เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน "กิจกรรมเวิร์คชอปครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีของเราไม่เพียงตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในปัจจุบัน แต่รวมถึงความต้องการในอนาคตได้อีกด้วย อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในไทยกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการธุรกิจและผู้ค้าปลีกจำนวนมากกำลังมองหานวัตกรรมการผลิตและบรรจุอาหาร ที่นำเสนอประโยชน์อันหลากหลาย ลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย และลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม เต็ดตรา แพ้ค ประเทศไทย มุ่งมั่นและพร้อมทำงานร่วมกับลูกค้าและวงการอุตสาหกรรมอาหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฟ้นหาสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ และเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน" คุณวันชัย สุวรรณเนตร กล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ