JWD ตอกย้ำเทิร์นอะราวด์ ธุรกิจห้องเย็นฟื้นตัวเร็วเกินคาด-รับฝากยานยนต์สดใส ดัน Q1/60 ทำรายได้ 572.8 ล้าน เติบโตต่อเนื่อง 2 ไตรมาส กำไรสุทธิ 40.3 ล้าน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 15, 2017 12:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) ผู้นำธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร ตอกย้ำธุรกิจเทิร์นอะราวด์ หลังทำผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง 2 ไตรมาส แจงไตรมาส 1/60 ทำรายได้จากการให้เช่าและการให้บริการ572.8 ล้านบาท เติบโต 2.6% จากไตรมาส 4/59 และ 4.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท 40.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.2% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิหลังหักกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นจากการรวมประมาณการทางบัญชีของไตรมาส 4/59 ด้านผู้บริหารแจงหลายธุรกิจเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจห้องเย็นที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเกินคาดและธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ที่ได้งานเพิ่มขึ้น ส่วนไตรมาส 2/60 เตรียมรับรู้รายได้จากศูนย์รวมการเก็บและกระจายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ (LCL) และธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ร่วมทุนกับสยามกลการอุตสาหกรรม ดร.เอกพงษ์ ตั้งศรีสงวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือJWD ผู้นำธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ภาคพื้นดินอย่างครบวงจร เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 (มกราคม-มีนาคม 2560) สามารถเทิร์นอะราวด์กลับมาเติบโตต่อเนื่อง 2 ไตรมาส โดยมีรายได้จากการให้เช่าและการให้บริการ 572.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6%จากไตรมาส 4/59 ที่มีรายได้ 558 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 4.9% จากไตรมาส 1/59 ที่มีรายได้ 545.8 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทอยู่ที่ 40.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.2% จากไตรมาส 4/59 ที่มีกำไรสุทธิหลังหักกำไรพิเศษที่เกิดขึ้นจากการรวมประมาณการทางบัญชีอยู่ที่ 30.9 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจัยการเติบโตของผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 เกิดจากธุรกิจต่าง ๆ ได้แก่ ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น ธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ ธุรกิจรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย และธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดน ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว หลังจากคลังห้องเย็นที่มหาชัยมีความต้องการเช่าพื้นที่เก็บสินค้าอาหารทะเลทะลักกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งน่าจะเกิดจากบริษัทฯ เป็นห้องเย็นรายแรกในมหาชัยที่ได้รับใบอนุญาต MSC License (Marine Stewardship Council) โดย MSC ถือเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในด้านการทำประมงอย่างยั่งยืนและรับผิดชอบของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทุกกระบวนการ ตั้งแต่การซื้อขาย ขนส่ง บรรจุ รวมทั้งกระบวนการจัดเก็บสินค้าประมง ซึ่งห้องเย็น JWD เป็นแห่งเดียวในทำเลมหาชัย ที่ผ่านการตรวจรับรองและได้รับใบอนุญาตดังกล่าว ประกอบกับราคาอาหารทะเลปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการสต๊อกสินค้าเพิ่ม จึงทำให้ห้องเย็นมหาชัยมีปริมาณสินค้าที่รับฝากปลายไตรมาส 1/60 เพิ่มขึ้นจากช่วงต่ำสุด 16,000 ตันในปีที่ผ่านมา เป็น32,000 ตัน ใกล้เคียงกับช่วงสูงสุดในปี 2558 ที่บริษัทสามารถทำกำไรได้ดี ส่วนห้องเย็นสุวินทวงศ์ก็ได้งานจัดเก็บและผสมเนยแข็งเพิ่มขึ้น ด้านภาพรวมธุรกิจรับฝากและบริหารยานยนต์ก็มีปริมาณงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเร่งผลิตรถเพิ่มในปีนี้ โดยได้รับงานจากลูกค้ารายใหม่และมีการต่อสัญญาจากลูกค้ารายเดิม แบ่งเป็นรายได้จากการรับบริหารลานจอดพักรถยนต์เพื่อการส่งออก การให้บริการบริหารจัดการคลังอะไหล่และลานจอดพักรถยนต์บนพื้นที่ของลูกค้าเอง (On-site Service) รวมทั้งการให้บริการโลจิสติกส์สำหรับชิ้นส่วนยานยนต์แบบครบวงจรแก่บริษัทในเครือสยามกลการ ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ก็เติบโตได้ดี เช่น บริการรับฝากและบริหารสินค้าอันตราย มีปริมาณตู้คอนเทนเนอร์สินค้าอันตรายที่ผ่านเข้า-ออกในท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ในไตรมาส 1/60 จำนวน 42,733 ตู้ เพิ่มขึ้น18.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับภาพรวมการส่งออกของไทยที่เติบโตในไตรมาสแรก ขณะที่บริการใหม่ ศูนย์กระจายสินค้าเคมีภัณฑ์ (JWD Chemical Supply Chain : JCS) ได้รับลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนและเริ่มมีกำไรได้ในไตรมาส 3 ของปีนี้ นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JWD กล่าวว่า การที่บริษัทฯ กลับมามีกำไรติดต่อกัน 2 ไตรมาส เป็นการตอกย้ำว่าธุรกิจของ JWD เทิร์นอะราวนด์ชัดเจน และคาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังจากที่บริษัทฯ ได้บันทึกค่าใช้จ่ายในการพัฒนาธุรกิจและตั้งประมาณการหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น 2 รายการไปแล้วในปีที่ผ่านมา ประกอบกับได้มุ่งบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การติดตั้งโซล่าร์ รูฟท็อปบนหลังคาคลังสินค้าห้องเย็นเพื่อลดต้นทุนพลังงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้ ส่วนการดำเนินงานไตรมาส 2/60 ได้เร่งเก็บเกี่ยวรายได้จากธุรกิจต่าง ๆ ที่ได้ขยายการลงทุนไปแล้ว อาทิ ธุรกิจศูนย์รวมการเก็บและกระจายสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ (LCL) เพื่อให้บริการแก่ผู้ส่งออกสินค้าแบบไม่เต็มตู้ ที่จะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป ซึ่ง JWD เป็นรายแรกที่เปิดให้บริการในพื้นที่เขตปลอดอากร ภายในท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี, โครงการร่วมทุนกับสยามกลการอุตสาหกรรมเพื่อให้บริการด้านโลจิสติกส์ชิ้นส่วนยานยนต์แก่กลุ่มสยามกลการ ที่เริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสนี้ "เรามองว่าภาพรวมธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ในไตรมาส 2 มีแนวโน้มค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากรัฐบาลพยายามเร่งแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ขณะที่อุตสาหกรรมให้บริการโลจิสติกส์ยานยนต์น่าจะได้รับผลดีจากการที่ผู้ผลิตรถบางรายมีแผนเร่งผลิตรถเพิ่มขึ้นในปีนี้ ส่วนธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามแดนคาดว่าจะขยายตัวได้ดีตามการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ CLMV" นายชวนินทร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ