เอกชนไทย-อังกฤษจับมือหนุนไทยแลนด์ 4.0 ตั้งคณะทำงานผลักดันการค้าการลงทุนสองประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 16, 2017 14:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--ปตท. แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อประสิทธิภาพดำเนินการ ประกอบด้วย ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และโอกาสในการลงทุน ด้านการอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินธุรกิจ และด้านส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ มั่นใจการเมืองอังกฤษเปลี่ยนแปลงหลังเลือกตั้งใหม่ 8 มิถุนายน 2560 ไม่กระทบความสัมพันธ์ทางการค้าที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานสภาผู้นำธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักร ฝ่ายไทย เปิดเผยว่า ผู้นำภาคธุรกิจฝ่ายไทยและอังกฤษได้มีการประชุมหารือความร่วมมือ ณ กรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 24-25 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มการค้าระหว่างสองประเทศ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่สอง ต่อเนื่องจากการประชุมครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2559 โดยในการประชุมครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้แทนรัฐบาลฝ่ายอังกฤษคือ นายมาร์ค การ์นิเยร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้ง นายไบรอัน เดวิทสัน เอกอัคราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย และผู้แทนฝ่ายไทยโดย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ชี้แจงข้อมูล Thailand 4.0 ให้นักลงทุนอังกฤษ พร้อมทั้งนายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ เป็นสักขีพยาน รวมถึงนักธุรกิจสองฝ่ายเข้าร่วมประชุมกันกว่า 65 คน สำหรับผลการประชุมนั้นมีผลให้เกิดความก้าวหน้าด้านการผลักดันการลงทุนระหว่างกัน โดยสภาผู้นำธุรกิจฯ ได้จัดตั้งคณะทำงานออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยสมาชิกสามารถเป็นสมาชิกได้มากกว่า หนึ่งคณะทำงาน โดยกลุ่มต่างๆประกอบด้วย 1) คณะทำงานด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และโอกาสในการลงทุน มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการสื่อสารกับนักลงทุนในเรื่อง Thailand 4.0 การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) และการพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor of Innovation (EECi) รวมทั้งเป็นโอกาสในการสร้างเวทีสำหรับนักลงทุนเพื่อให้เกิดการเข้าถึงข้อมูล และประสานงานได้โดยตรงกับหน่วยงานของฝ่ายรัฐบาลไทย ทั้งนี้มีบริษัท โรลส์ รอยซ์ (Rolls Royce) และบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTT Global Chemical Plc) เป็นหัวหน้าคณะทำงาน 2) คณะทำงานด้านการอำนวยความสะดวกต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเน้นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความต้องการของนักธุรกิจ และนักลงทุนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านการขอใบอนุญาตในการทำงานในประเทศไทย ซึ่งควรจะเริ่มดำเนินการขอใบอนุญาตทำงานจากสถานทูตไทยในประเทศอังกฤษก่อนเดินทางมาประเทศไทย ในขณะเดียวกันหัวข้อการสนทนาเรื่องการขอใบอนุญาตในการทำงานประเทศอังกฤษก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่ โดยนักธุรกิจฝ่ายไทยยังได้มีโอกาสพูดคุยโดยตรงกับรัฐบาลเพื่อชี้แจงปัญหาด้านแรงงานที่เกิดขึ้น และความกังวลใจของนักลงทุนหลังจากที่ประเทศอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทั้งนี้หัวหน้าคณะทำงานคือ สภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย (British Chamber of Commerce) และ สภาหอการค้าไทย 3) คณะทำงานด้านส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศ โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลของธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่แล้ว และหาโอกาสเพิ่มเติมให้เกิดการค้าเพิ่มขึ้น อีกทั้งเรื่องโควตาการส่งออกเนื้อสัตว์ไปยังประเทศอังกฤษอีกด้วย โดยผู้นำคณะทำงานนี้ได้แก่ เทสโก้ โลตัส (Tesco Lotus) และธนาคารกรุงเทพ นายเทวินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาก่อให้เกิดความร่วมมือกันในหลายๆ โครงการ อาทิการตั้งศูนย์ซ่อมบำรุง ณ สนามบินอู่ตะเภา หรือโครงการตั้งศูนย์วิจัยพัฒนาเครื่องยนต์ ของ โรลส์ รอยซ์ (Rolls Royce) ร่วมกับบริษัทการบินไทย เป็นต้น นอกจากนั้นแล้วคณะผู้แทนภาครัฐบาล และภาคธุรกิจได้รับเกียรติจาก ดร. เลียม ฟอกซ์ (Dr. Liam Fox) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศ (Secretary of State for International Trade) เพื่อรับฟังรายงานผลการดำเนินงานของสภานักธุรกิจฯ ทั้งนี้รัฐบาลอังกฤษเองกำลังอยู่ในช่วงการเปลี่ยนแปลง โดยจะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 8 มิถุนายน 2560 อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ทางการค้าที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนานก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป และอังกฤษเองก็จะให้ความสำคัญกับตลาดเอเชียมากขึ้นอีกด้วย การดำเนินการของสภาผู้นำธุรกิจฯ นี้จะเป็นอีกกลไกหนึ่งที่จะทำให้เกิดความร่วมมือ และสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง ในโอกาสเดียวกันนี้บริษัท เทสโก้ (Tesco) ได้จัดงานเพื่อประชาสัมพันธ์ Taste of Thailand ที่สาขา เคนซิงตั้น (Kensington) ณ กรุงลอนดอน เพื่อให้อาหารไทยได้เป็นที่รู้จัก โดยได้รับเกียรติจากท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ของไทย และเอกอัคราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักรฯ รวมทั้งนักธุรกิจของฝ่ายไทย และอังกฤษเข้ามาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จจากความตั้งใจดีของทางรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตไปอย่างต่อเนื่องยาวนาน สภาผู้นำธุรกิจไทย-สหราชอาณาจักรได้ก่อตั้งในปี 2559 เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนของทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายความร่วมมือระหว่างธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ผ่านการสร้างพันธมิตร การพัฒนาธุรกิจ และการแลกเปลี่ยนข้อเท็จจริง ของกฎระเบียบ ที่อาจเป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ระหว่างภาครัฐบาล และภาคธุรกิจของทั้งสองประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ