ปภ.รายงานยังมีน้ำท่วมขังใน 3 จังหวัด เร่งให้การช่วยผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้านพร้อมประสานจังหวัดเตรียมพร้อมรับมือฝนตกต่อเนื่องในระยะนี้

ข่าวทั่วไป Wednesday May 31, 2017 17:10 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 16 – 31 พฤษภาคม 2560เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 23 จังหวัด รวม 65 อำเภอ 204 ตำบล 1,055 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,331 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมใน 3 จังหวัด ได้แก่ นครปฐมสระแก้ว และพังงา ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว พร้อมประสานจังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเตรียมพร้อมรับมือฝนตกต่อเนื่องในระยะนี้ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำท่วมขัง โดยตั้งแต่วันที่ 16 – 31 พฤษภาคม 2560 มีพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัย 23 จังหวัด รวม 65 อำเภอ 204 ตำบล 1,055 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,331 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต5 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 3 จังหวัด รวม 3 อำเภอ 6 ตำบล ดังนี้นครปฐม น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอบางเลน รวม 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลหินมูล ตำบลบางหลวง ตำบลบางไทรป่า และตำบลลำพญา ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว สระแก้ว น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ตำบลทัพเสด็จ อำเภอตาพระยา ประชาชนได้รับผลกระทบ 40 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง พังงา น้ำไหลหลากเข้าท่วมถนนและพื้นที่การเกษตรในตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่าปัจจุบันระดับน้ำลดลง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ทั้งการแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่มสะอาด การดูแลสุขภาพอนามัย การจัดรถบริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง การซ่อมแซมถนนและสิ่งสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าพายุดีเปรสชั่น "โมรา" (MORA) บริเวณตอนบนของประเทศเมียนมาได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยมีกำลังแรง ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ปภ.จึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงตรวจสอบสถานการณ์น้ำในแม่น้ำสายหลักอาทิ แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำโขง อีกทั้งจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำพื้นที่เสี่ยงภัยให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ทั้งวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เครือข่ายวิทยุสมัครเล่น สถานีโทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ