กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,264.26-1,258.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,400 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM17 อยู่ที่ 20,500 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,530 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.20 น.ของวันที่ 31/05/2560)
แนวโน้มวันที่ 01 มิถุนายน 2560
แรงกดดันในช่วงขาลงต่อเศรษฐกิจจีนลดลง เมื่อผลสำรวจที่พบว่า ภาคการผลิตของจีนขยายตัวมากเกินคาดในเดือนพ.ค. บ่งชี้ว่าแม้ทางการจะจัดการขั้นเด็ดขาดกับความเสี่ยงด้านหนี้ และสินเชื่อ ไม่ได้ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลง ขณะที่ ยอดขาดดุลการค้าในภาคบริการของจีนลดลงสู่ 1.83 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. จาก 2.21 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. และ ค่าเงินหยวนในตลาดออนชอร์พุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ข้อมูลดังกล่าว ส่งผลลบต่อราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งจีนถือว่าเป็นผู้ซื้อทองคำอันดับหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตามราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่มาก เพราะตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวของสหรัฐส่งสัญญาณอ่อนแอ และปัจจัยนี้อาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่สามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีก 2 ครั้งในช่วงต่อไปในปีนี้ และอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางเฟดจากการเริ่มต้นปรับลดขนาดงบดุลในช่วงต่อไปในปี ประกอบกับ นางลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการคนหนึ่งของเฟด กล่าวว่า เฟดอาจจะต้องการเลื่อนเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่นางเบรนาร์ด สนับสนุนให้เฟดปรับลดปริมาณการถือครองตราสารหนี้ลง ซึ่งเฟดเคยส่งสัญญาณว่า เฟดวางแผนจะเริ่มต้นปรับลดปริมาณการถือครองตราสารหนี้ลงจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงต่อไปในปีนี้ โดยในตอนแรกนั้นเฟดจะกำหนดเพดานการปรับลดปริมาณหลักทรัพย์ไว้ในระดับต่ำและจะปรับขึ้นเพดานดังกล่าวทุกๆ 3 เดือน ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นสิ่งที่นักลงทุนจับตาและใช้คาดการณ์ทิศทางนโยบายของเฟด ระยะสั้นแนะนำว่าหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,270-1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายแต่ถ้าหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,258-1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะเห็นการดีดตัวของราคาเพื่อทดสอบแนวต้าน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,258-1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,270-1,278 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ แต่ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามรถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,252 (20,150บาท) 1,245 (20,050บาท) 1,236 (19,900บาท)
แนวต้าน 1,278 (20,600บาท) 1,287 (20,750บาท) 1,295 (20,850บาท)
GOLD FUTURES (GFM17)
แนวรับ 1,252 (20,310บาท) 1,245 (20,200บาท) 1,236 (20,060บาท)
แนวต้าน 1,278 (20,740บาท) 1,287 (20,880บาท) 1,295 (21,010บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999