ECF เดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มอีกหนึ่งโครงการ ผู้ถือหุ้นไฟเขียวส่งบริษัทย่อย ECF-Power เข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GEP ขนาด 220 เมกะวัตต์

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 1, 2017 12:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--Worklink PR ECF เดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานทดแทนเพิ่มอีกหนึ่งโครงการ ผู้ถือหุ้นไฟเขียวส่งบริษัทย่อย ECF-Power เข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GEP ขนาด 220 เมกะวัตต์ ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท ลงทุนในหุ้น 20% มั่นใจแผนขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าหนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2560 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ได้มีมติอนุมัติการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาด 220 เมกะวัตต์ ของบริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (GEP) ณ เมืองมินบู รัฐมาเกวย ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ โดยให้ บริษัท อีซีเอฟ พาวเวอร์ จำกัด (ECF-Power) บริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ 99.99% เป็นผู้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของ GEP ในสัดส่วน 20% โดยแต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEP สำหรับรูปแบบการลงทุนในโครงการดังกล่าว ส่วนที่ 1 ECF-Power จะเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEP จำนวน51,512 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท คิดเป็น 20% ของหุ้นสามัญทั้งหมดของ GEP หรือ คิดเป็นจำนวนหุ้นสามัญของ GEP ภายหลังจากเข้าทำรายการในครั้งนี้ รวมเป็นราคาเข้าซื้อหุ้นสามัญของ GEP 9 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 310.05 ล้านบาท นอกจากนี้ในส่วนที่ 2 ยังมีส่วนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะจองซื้อตามสัดส่วนการถือหุ้น เมื่อมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนในอนาคตจนกว่าโครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จครบ 4 เฟส จำนวน 20.22 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 696.44ล้านบาท โดยภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นนี้ ECF-Power มีภาระผูกพันต่อผู้ให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 220 เมกะวัตต์ ในการให้การสนับสนุนส่วนขาดของเงินสด ("Cash Deficiency Support หรือCDS") ตามสัดส่วนการถือหุ้นแต่ไม่เกิน 5.54 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ 190.85 ล้านบาท ตามประกาศอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารแห่งประเทศไทย "การเข้าซื้อหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าของ GEP จะช่วยส่งเสริม และสร้างความเติบโตของรายได้ที่มั่นคงให้แก่บริษัทต่อไปในอนาคต ก่อให้เกิดผลกำไรและกระแสเงินสดกลับสู่บริษัท และในท้ายที่สุดจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท"นายอารักษ์ กล่าว ทั้งนี้ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด (GEP Thailand) ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยปัจจุบัน GEP Thailand เป็นผู้ถือหุ้น 99.99% ใน GEP Myanmar Co,Ltd. ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานในรูปแบบ Build Operate and Transfer (BOT) ในการพัฒนาและดำเนินโครงการฯ และเป็นผู้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement หรือ สัญญา PPA) กับ Electric Power Generation Enterprise (EPGE) ระยะเวลารวมทั้งสิ้น 30 ปี นับจากวันที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของระยะที่ 1กำลังการผลิตไฟฟ้า 220 เมกะวัตต์ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ห่างกันทุก ๆ 1 ปี ทั้งนี้คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์สำหรับเฟสที่ 1 ได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ