ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) หาพันธมิตรมาร่วมออกแบบและพัฒนารถใหม่ ใน 3 ประเทศคือ ออสเตรเลีย เยอรมนี และอังกฤษ

ข่าวทั่วไป Friday December 1, 2000 10:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์
นายสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตรถดัดแปลงและชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะขยายการพัฒนาสินค้าของตนเองในอนาคต นอกเหนือไปจากการรับจ้างดัดแปลงให้กับยี่ห้ออื่นที่เป็นแนวธุรกิจหลักในขณะนี้ โดยได้เริ่มหาพันธมิตรมาร่วมออกแบบและพัฒนารถใหม่ ใน 3 ประเทศคือ ออสเตรเลีย เยอรมนี และอังกฤษ โดยขณะนี้ได้เริ่มต้นเจรจาแล้ว 1 รายคือ บริษัท อีเดก (EDAG) ของเยอรมนี
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไทยรุ่งระบุว่ามีแผนสร้างรถยี่ห้อไทยรุ่ง โดยคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 5 ปี และเชื่อมั่นว่าเป็นไปได้ เพราะเห็นว่าภาพพจน์และชื่อเสียงของบริษัทในด้านการเป็นผู้ดัดแปลงรถยนต์ได้รับการยอมรับมานาน นอกจากแนวทางการพัฒนาสินค้าของตนเองแล้ว นายสมพงษ์ กล่าวว่า ไทยรุ่งพยายามจะเพิ่มความหลากหลายในรุ่นรถดัดแปลง รวมทั้งการเพิ่มยี่ห้อดัดแปลงเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน โดยล่าสุด ได้แนะนำรถดัดแปลง นิสสัน ทีอาร์ เอ็กซ์ไซเตอร์ (Xciter) ซึ่งดัดแปลงมาจากนิสสัน บิ๊กเอ็ม เครื่องยนต์ดีเซล ทีดี 2.7 ลิตร ขับเคลื่อน 2 ล้อ ในรูปแบบสเตชั่น แวกอน ในราคา 7.88 แสนบาท ในรุ่นเอ็กซ์ไซเตอร์ และ 8.22 แสนบาทในรุ่น ซูเปอร์ เอ็กซ์ไซเตอร์ และมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับในตลาดด้วยดี
"เอ็กซ์ไซเตอร์ เป็นรถที่จะมาเป็นคู่แข่งของรถที่มีการพัฒนาจากรถปิกอัพ และรวมไปถึงรถมินิแวนนำเข้า ซึ่งมีราคาที่สูงกว่า ขณะที่ทีอาร์ เอ็กซ์ไซเตอร์ จะมีจุดเด่น เช่นการประหยัดน้ำมัน ความสะดวกในการขึ้นลง และการใช้งาน เช่นห้องโดยสารที่กว้างขวาง และเบาะนั่งแถวที่ 3 ที่สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย และในอนาคตเราอาจจะผลิตรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจากบิ๊กเอ็ม ฟรอนเทียร์ ซึ่งเป็นปิกอัพตัวใหม่ล่าสุดของนิสสัน คาดว่า จะใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือนนับจากนี้" นายสมพงษ์กล่าว
สำหรับเอ็กซ์ไซเตอร์ จะเปิดตัวให้ลูกค้าอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (2ธ.ค.)ในงานมหกรรมยานยนต์ ที่เมืองทองธานี พร้อมกับจัดราย การส่งเสริมการขายพิเศษดอกเบี้ย 4.5% โดยหวังว่าจะสร้างยอดจำหน่ายได้ประมาณ 150-200 คัน ส่วนปี 2544 คาดว่าจะทำตลาดได้ 2,000 คัน ทำให้ตลาดรวมของไทยรุ่งเติบโตจากปีนี้ 60% หรือคิดเป็นยอดรวม 8,000-9,000 คันในปีหน้าอีกด้วย
"ทีอาร์ เอ็กซ์ไซเตอร์ จะช่วยส่งเสริมการส่งออกชิ้นส่วนดัดแปลงของบริษัทเพิ่มขึ้นในปีหน้าเป็น 300 ล้านบาทจากที่มีการส่งออกชิ้นส่วนดัดแปลงอีซูซุมูลค่า 80 ล้านบาท หรือเติบโต 275% โดยตลาดสำคัญคือจีน ที่ตกลงเซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะขยายไปสู่แอฟริกาใต้ และซูดาน" เปิดเกมรุกหลายโครงการ
ในปีนี้ ไทยรุ่งมีความเคลื่อนไหวเชิงรุก เช่น การขอการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เพื่อตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนตัวถังและแม่พิมพ์แห่งใหม่ที่ระยอง มูลค่าลงทุน 350 ล้านบาท พร้อมเปิดดำเนินการได้ในกรกฎาคม 2544 อีกโครงการคือ การขยายในโรงงานผลิตแม่พิมพ์และจิ๊ก ซึ่งลงทุนโดยบริษัท ไทยรุ่งเจนเนอรัลมอเตอร์ จำกัด 150 ล้านบาท ซึ่งสามารถดำเนินการได้ภายในสิ้นปีนี้
นายสมพงษ์กล่าวว่า สถานการณ์ชิ้นส่วนในปีนี้ดีขึ้น โดยบริษัทคาดว่าจะเติบโตประมาณ 15% และในปี 2544 จะดียิ่งขึ้นเพราะการเปิดตลาดกับกลุ่ม จีเอ็มและฟอร์ด รวมถึงการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น ไทยรุ่งได้วางแผนการขยายสายงานธุรกิจชิ้นส่วนไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยการตั้งโรงงานผลิตแม่พิมพ์มูลค่า 150 ล้านบาท คาดว่าภายใน 2 ปีจะมีสัดส่วนรายได้ 10-15% ของการจำหน่ายแม่พิมพ์ทั้งหมด
นอกจากนั้น ยังมีแผนที่จะลงทุนสร้างตัวถังรถห้องเย็นขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งชนิดแช่แข็งและตู้เย็นธรรมดา เนื่องจากเห็นว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวดีในอนาคต โดยบริษัทได้เจรจาร่วมมือกับผู้ประกอบการในญี่ปุ่นแล้ว 2-3 ราย และคาดว่าจะผลิตได้ในกลางปี 2544 ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับตัวสู่ความเป็นสากลมากขึ้น โดยส่วนหนึ่งของแผนการตลาดที่ได้ดำเนินการไปแล้วคือ การออกงานโฆษณาโทรทัศน์ ที่เน้นเนื้อหาในความเป็นไทยที่จะก้าวทันอุตสาหกรรมรถยนต์ของโลกอีกด้วย--จบ--
-สส-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ