กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์ กลุ่มสามมิตรมอเตอร์ส ประกาศเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ เน้นระบบการขนส่งครบวงจรสนองนโยบายภาครัฐ พร้อมช่วยลดต้นทุนให้กับผู้บริโภค เดินหน้าเต็มที่ขยายตลาดรถบรรทุกและหลังคาเหล็กแบรนด์ของสามมิตร รวมทั้งสินค้าประดับยนต์เต็มรูปแบบ หวังเพิ่มยอดรายได้ปี 2548 เพิ่มขึ้น 70 % นายยงยุทธ โพธิ์ศิริสุข รองประธานกรรมการ บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริง จำกัด กล่าวในงานเปิดตัวของกลุ่มสามมิตรมอเตอร์สว่า “กว่า 46 ปี ที่กลุ่มสามมิตรได้ดำเนินการด้านอุตสาหกรรมยานยนต์มาโดยตลอด เรากล้าที่จะพูดว่า ขณะนี้เราได้ดำเนินธุรกิจทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์รวมถึงระบบขนส่งที่ครบวงจร โดยธุรกิจหลักๆ ของกลุ่มสามมิตร ดำเนินการเพื่อรองรับตั้งแต่ภาคเกษตรกรรมไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม ซึ่งมีทั้ง ธุรกิจบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก รถเทรลเลอร์ รถขยะ รถพิเศษต่างๆ ธุรกิจรถเล็ก เช่น แม่พิมพ์ อุปกรณ์ยึดจับสำหรับประกอบรถยนต์ (JIG) ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตส่งให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ ทั้งโตโยต้า ฮอนด้า นิสสัน ฮีโน่ อีซูซุ มิตซูบิชิ ฯลฯ รวมถึงหลังคาเหล็กของสามมิตร ซึ่งเป็นสินค้าที่โดดเด่นและเป็นแบรนด์ของสามมิตรเอง ธุรกิจอุปกรณ์และอะไหล่ เช่น แหนบ เพลาไฮดรอลิค จานไถ ใบมีดเกษตร เป็นต้น และที่สำคัญคือ ธุรกิจรถเกษตรและเครื่องจักรกลการเกษตร เช่น รถบรรทุกขับเคลื่อน 4 ล้อ (Farm Truck) ที่ผลิตและออกแบบมาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตอบสนองการใช้งานทุกรูปแบบของพี่น้องชาวเกษตรกรรมอย่างแท้จริง โดยมีทั้งรถที่สามารถขับเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่การเกษตร และรถสำหรับบรรทุกผลิตผลทางการเกษตรได้” “ซึ่งจากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น กลุ่มสามมิตรมีความภาคภูมิใจมากที่เรามีโรงงานที่ผลิตอุปกรณ์ทางด้านยานยนต์ทุกอย่างได้เอง โดยสามารถตอบสนองความของผู้บริโภคได้อย่างดีเยี่ยม สามมิตรจึงกล้าประกาศว่าเราจะเป็นบริษัทแรกที่ได้ดำเนินการเรื่องระบบขนส่งอย่างครบวงจรในขณะนี้ สิ่งที่สามมิตรต้องการ คือ เราสามารถลดภาระให้กับผู้บริโภคได้ ประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กลุ่มสามมิตรมีความตั้งใจจริงที่จะผลิตสินค้าออกมาให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพ เพราะการที่เราจะผลิตชิ้นงานออกมาชิ้นหนึ่ง นอกจากวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานผ่านการทดสอบแล้ว ยังมีทีมวิจัยและพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทีมวิศวกรของบริษัทฯ และระบบซอฟต์แวร์ (Software) ที่ทันสมัย ซึ่งจุดนี้นับว่าเป็นจุดเด่นของสามมิตรที่ทำให้ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศยอมรับเรา” นายยงยุทธ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สินค้าที่กลุ่มสามมิตรผลิตขายในประเทศ เช่น หลังคาเหล็กรถกระบะรถเกษตร รถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ รถพิเศษ เช่นรถขยะ ใบมีดทางการเกษตร ชิ้นส่วนอะไหล่สำหรับรถยนต์ฯลฯ ซึ่งในปีนี้เราจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาสู่ตลาดให้มากขึ้นอีก เช่น การติดตั้งหลังคาเหล็ก และอุปกรณ์ตกแต่งประดับรถยนต์ให้กับรถปิคอัพทั้งคัน เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าให้กับรถ ส่วนสินค้าที่ส่งออกอื่นๆ เช่น แม่พิมพ์ชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ก็ได้มีการส่งออกไปกลุ่มอียู (EU) แอฟริกาใต้ กลุ่มประเทศอาเซียน ออสเตรเลีย และประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง (Middle East) รวมถึงสินค้าอะไหล่ ทั้งไฮดรอลิคสำหรับรถบรรทุก แหนบรถกระบะ และรถบรรทุกก็ส่งไปขายยังกลุ่มเอเชีย และตะวันออกกลางด้วยเช่นกัน และนอกจากจะเน้นการพัฒนาด้านการผลิตแล้วในปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะเพิ่มผู้แทนจำหน่ายด้านหลังคาเหล็ก สามมิตร ซึ่งเราเป็นที่ 1 ในด้านนี้ รวมถึงชิ้นส่วนประดับรถยนต์ให้ได้ 160 สาขาทั่วประเทศ เพื่อรองรับ ความต้องการของผู้บริโภคที่เล็งเห็นถึงคุณภาพความปลอดภัยในการติดตั้งหลังคาเหล็กของสามมิตร” นายยงยุทธ ได้กล่าวถึงตัวเลขรายได้ของกลุ่มสามมิตรว่า “ในภาพรวมของธุรกิจของกลุ่ม สามมิตรนั้น รายได้หลักเราจะมาจากธุรกิจรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และรถพิเศษ ถึง 50%ธุรกิจรถเล็กประมาณ25% และจากธุรกิจอุปกรณ์อะไหล่ 25% โดยในปี 2547 ที่ผ่านมา รายได้ของกลุ่มสามมิตรทั้งหมดอยู่ที่ 2,900ล้านบาท โดยในปี 2548 นี้ ได้มีการตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตจะเพิ่มขึ้นถึง 70% โดยรายได้หลักก็จะมาจากธุรกิจรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ และสายธุรกิจรถเล็กเหมือนเดิม ซึ่งเราได้มีการเตรียมแผนงานการพัฒนาคุณภาพสินค้าโดยใช้ทีมวิจัยพัฒนาที่เป็นจุดเด่นของสามมิตร และการตลาดที่จะเน้นการตอบสนองผู้บริโภคให้มากที่สุด นั่นก็จะรวมถึงการจัดการที่ดีควบคู่กันไป เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ ข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อ : เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์ ปณาลี กาญจนสาขา (หมู) หรือ ประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน (บ็อบ) โทร. 0-2204-8211, 8216 สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--