กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--นานมีบุ๊คส์
ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีของวงการวิทย์ที่สองหน่วยงานจากภาครัฐและเอกชนอย่าง สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลง ร่วมกันพัฒนาการเรียนการสอนและสร้างความเข้าใจ ด้านวิทยาศาสตร์ ให้แก่ ครู เยาวชน และบุคคลทั่วไป ผ่านการจัดทำหนังสือ สื่อการเรียนรู้ ตลอดจนการจัดกิจกรรม อบรม สัมมนา ในรูปแบบต่างๆ โดยเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมภายในปี 2561 เพื่อร่วมฉลองโอกาสครบรอบ 70 ปี สมาคมวิทยาศาสตร์ฯที่กำลังจะมาถึง
รศ. ดร. นภาวรรณ นพรัตนราภรณ์ นายกสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า "มีโอกาสได้เจอและพูดคุยกับคุณคิม ก็รู้สึกว่าเราทั้งสองหน่วยงานมีเป้าหมายที่คล้ายกันที่ต้องการพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ จึงคิดว่าต้องทำอะไรร่วมกันสักอย่าง จึงได้นัดพูดคุยร่วมกับทีมงานทั้งสองฝ่ายเพิ่มเติม และพบว่านอกเหนือจากหนังสือคุณภาพดีแล้ว นานมีบุ๊คส์ยังมีโครงการต่างๆอีกมากมาย ที่ทำออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์วิทยาศาสตร์เฟโนเมนตา ตั้งอยู่กลางใจเมือง บนพื้นที่อาคารของนานมีบุ๊คส์เฮ้าส์ ในซอยสุขุมวิท 31 ได้เห็นทีมงานที่มีศักยภาพในการจัดค่ายและสัมมนา ตลอดจนพื้นที่ที่อำนวยความสะดวกในการจัดค่ายที่ Go Genius Learning Center เขาใหญ่ เรียกได้ว่านานมีบุ๊คส์ เป็นหน่วยงานเอกชนที่มีประสิทธิภาพ ทั้งด้าน contentทีมงานและสถานที่อย่างครบวงจร ประจวบเหมาะกับในปี 2561 ที่สมาคมวิทยาศาสตร์ฯจะครบรอบ 70 ปี เราจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ระดับประเทศ ก็จะมีกิจกรรมต่างๆตามมาอีกมามาย นานมีบุ๊คส์จะได้เข้ามาช่วยผลักดันและดำเนินการส่วนโครงการที่นานมีบุ๊คส์มีความเชี่ยวชาญ เราถึงได้เข้ามาร่วมมือกันในครั้งนี้"
คิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นานมีบุ๊คส์ จำกัด กล่าวว่า "นานมีบุ๊คส์รู้ตื่นเต้นและยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยฯ ซึ่งถือที่สมาคมที่มีความเก่าแก่และเป็นเกียรติระดับประเทศ หลังจากที่ได้พบกับท่านนายกสมาคมฯและคณะผู้บริหารก็รู้สึกเช่นกันว่า ทั้งสองหน่วยงานต้องร่วมมือกันพัฒนาวงการวิทย์อย่างที่พวกเราตั้งใจ และต้องทำให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำหนังสือโครงงานวิทยาศาสตร์ดีเด่น สารานุกรมอาหารไทย การร่วมกันจัดค่ายและอบรมครู อันดับต่อไปคือการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันให้สำเร็จ พวกเรานานมีบุ๊คส์ก็จะทำอย่างดีที่สุดค่ะ"
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาการเรียนการสอนและความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครู อาจารย์ เยาวชนและบุคคลทั่วไป และร่วมกันใช้ทรัพยากรและความสามารถของทั้งสององค์กร ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาและส่งเสริมการสร้างกระบวนทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนร่วมกันพัฒนากิจกรรมการจัดการแหล่งเรียนรู้ และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยทั้งสองฝ่ายมีแนวทางความร่วมมือประกอบด้วย
1. การสนับสนุนให้เกิดการจัดกิจกรรมและ Science camp สำหรับนักเรียนระดับมัธยม
2. ส่งเสริมการอ่านให้กับสถาบันการศึกษา โรงเรียน ครูและเยาวชน ให้สามารถอ่านอย่างแตกฉานและเขียนอย่างกระชับ
3. พัฒนาทักษะการเป็น mentor โครงการวิทย์ให้กับครู
4. จัดทำหนังสือโครงการวิทยาศาสตร์ดีเด่นสำหรับมัธยม ในโอกาสครบรอบ 70 ปี สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
แน่นอนว่าการทำงานร่วมกันของทั้งสองหน่วยงานย่อมส่งแรงกระเพียมต่อวงการวิทยาศาสตร์ได้มากกว่าการทำงานเพียงลำพังอย่างแน่นอน ความรู้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ของสมาคมวิทยาศาสตร์ฯจะถูกผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ในจัดกระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์สไตล์นานมีบุ๊คส์ อันจะนำไปสู่เป้าหมายในการปั้นนักวิทย์น้อยให้เป็นอนาคตที่สดใสของประเทศต่อไป