สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 19 มิถุนายน 2560 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 19, 2017 17:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--พีอาร์ดีดี สภาวะตลาดวันที่ 19 มิถุนายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,248.63-1,255.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,250 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM17 อยู่ที่ 20,210 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,300 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 17.02 น.ของวันที่ 19/06/60) แนวโน้มวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ความเสี่ยงทางการเมืองในสหรัฐ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์, สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐ (เอฟบีไอ) และ รัสเซียได้ขัดขวางท่าทีเชิงคุมเข้มนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในระดับหนึ่ง ขณะที่ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาดทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในสินทรัพย์สหรัฐ จนอาจกระทบดอลลาร์ว่าจะรักษาระดับความแข็งแกร่งไว้ได้ต่อไปหรือไม่ ประเด็นดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำแต่ราคาทองคำดีดตัวในระดับที่จำกัด เนื่องจากแนวโน้มที่เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก และ เฟด ได้ส่งสัญญาณเริ่มลดขนาดงบดุลภายในปีนี้ ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ จนส่งผลให้นักลงทุนรอฟังถ้อยแถลงของประธานเฟดสาขาต่างๆ ในช่วงต่อไปเพื่อใช้ในการประเมินว่าการดำเนินนโยบายของเฟดเพิ่มเติม ทั้งนี้ นักลงทุนจับตานายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ของอังกฤษที่เริ่มต้นกระบวนการถอนตัวออกจากอียู โดยจะใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 2 ปี ซึ่งการถอนตัวจะแล้วเสร็จในเดือนมี.ค. 2562 อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังแทบไม่มีความชัดเจนใดๆเกี่ยวกับอนาคตของ Brexit ประกอบกับ อนาคตทางการเมืองของนางเมย์เองก็มีความไม่แน่นอน หลังจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนางเมย์ไม่สามารถครองเสียงข้างมากในรัฐสภาในการเลือกตั้ง ความคืบหน้าประเด็นดังกล่าวถูกใช้เป็นปัจจัยชี้นำทิศทางราคาทองคำเช่นกัน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยกับ"รอยเตอร์"ว่า การแข็งค่าของเงินบาทในขณะนี้ มีผลกระทบจำกัดต่อการส่งออก และการท่องเที่ยวของไทย ขณะที่มองการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท ยังสอดคล้องกับสกุลเงินภูมิภาคและปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทย โดยย้ำว่า ยังคงติดตามการไหลเข้าของเงินทุนระยะสั้นอย่างใกล้ชิด และมีเครื่องมือพร้อมนำมาใช้ดูแล หากเกิดความผันผวน ซึ่งการแข็งค่าของค่าเงินบาท ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำในประเทศ กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสร้างฐานของราคา โดยหากสามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,245 (20,000บาท) 1,236 (19,850บาท) 1,223 (19,650บาท) แนวต้าน 1,266 (20,300บาท) 1,274 (20,450บาท) 1,283 (20,600บาท) GOLD FUTURES (GFM17) แนวรับ 1,245 (20,110บาท) 1,236 (19,960บาท) 1,223 (19,750บาท) แนวต้าน 1,266 (20,450บาท) 1,274 (20,580บาท) 1,283 (20,720บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ