TFD มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 4 พันลบ.-เทิร์นอะราวด์ตามแผน อานิสงส์รัฐดัน EEC ดันยอดขายที่ดิน-โรงงานให้เช่า-คลังสินค้า กลับโหมดปกติ

ข่าวอสังหา Thursday July 6, 2017 16:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--IR network TFD มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้า 4 พันลบ.-เทิร์นอะราวด์ตามแผนอานิสงส์รัฐดัน EEC ดันยอดขายที่ดิน-โรงงานให้เช่า-คลังสินค้า กลับโหมดปกติจ่อขายคอนโดฯพรีเมี่ยมกลางรัชดาฯร่วมกับ"คันทรี การ์เด้นฯ"ในไตรมาส 3/60ลุ้นนักธุรกิจนิคมฯไต้หวันที่เข้ามาถือหุ้นดึงผู้ประกอบการตปท.ย้ายฐานมาไทย บิ๊กบอส TFD "อภิชัย เตชะอุบล"มั่นใจผลการดำเนินงานปี"60 เทิร์นอะราวด์ คาดรายได้เข้าเป้า 4 พันล้านบาท อานิสงส์รัฐผลักดันระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) ดันยอดขายที่ดิน-ธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและให้เช่าคลังสินค้า กลับเข้าสู่โหมดปกติ เตรียมผุดโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมใจกลางรัชดาฯ มูลค่ากว่า 6.8 พันล้านบาท ร่วมกับ "คันทรี การ์เด้นฯ"อสังหาฯ เบอร์หนึ่งจากประเทศจีน คาดเปิดขายภายในไตรมาส 3/60 นี้ ย้ำฐานทุนแกร่ง ขาย PP รับเงินเข้ามากว่า 500 ล้านบาท ได้ 2 นักธุรกิจนิคมฯในไต้หวันเข้ามาถือหุ้น หวังช่วยหนุนกลุ่มผู้ประกอบการตปท.ย้ายฐานมาไทยเลือกลงทุนในนิคมทีเอฟดี นายอภิชัย เตชะอุบล รองประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (TFD) ประเมินถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2560 จะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้ตามแผน โดยคาดว่ารายได้จะแตะที่ระดับ 4,000 ล้านบาท เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจและการเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยในส่วนของพื้นที่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี เฟส 2 อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จำนวน 800 ไร่ ตั้งอยู่ในโซนแผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development: EEC) ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ที่สำคัญอยู่ห่างจากมอร์เตอร์เวย์เพียง 4 กิโลมตร อยู่ใกล้กับสนามบิน ใกล้กับท่าเรือ และน้ำไม่ท่วม จึงได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างรอผลผ่านการพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดจะได้รับการอนุมัติภายในเร็ว ๆ นี้ ส่วนธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท โทเทิล อินดัสเตรียล เซอร์วิสเซส จำกัด (TISCOM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ TFD ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดย TISCOM มีโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่า 3 โครงการ คือ โครงการ Green Park 1 ตั้งอยู่ในนิคมฯทีเอฟดี เฟส 2 จำนวน 8 โรง ขนาด 57,000 ตารางเมตร มูลค่า 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้เช่าแล้ว 25% ส่วน Green Park 2 (บางเสาธง) ขนาด 16,400 ตารางเมตร อยู่บนถนนบางนา-ตราด กม.22 มูลค่า 600 ล้านบาท และโครงการ Green Park 3 (บางเสาธง) ขนาด 23,000 ตารางเมตร มูลค่า 800 ล้านบาท สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่ดำเนินงานผ่านบริษัทย่อย บริษัท คราวน์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ล่าสุด ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับ บริษัท บิวตี้ฮอนเนอร์ เอ็นเตอร์ไพร์ช ลิมิเต็ด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มของ "Country Garden Holdings" บริษัทอสังหาริมทรัพย์และพัฒนาที่ดินอันดับหนึ่งจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยฮ่องกง โดยจะร่วมลงทุนโครงการคอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยมใจกลางรัชดาฯ ย่านธุรกิจใหม่ของกรุงเทพฯ มูลค่าโครงการ 6,800 ล้านบาท เจาะกลุ่มลูกค้าตลาดบนและลูกค้าชาวจีน เตรียมเปิดขายโครงการในไตรมาส 3/2560 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนได้ภายในปี 2562 "คันทรี การ์เด้นฯ เป็นยักษ์ใหญ่อสังหาฯเบอร์หนึ่งในประเทศจีน ที่มีการกระจายการลงทุนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นจีน อินโดฯ มาเลย์ และเวียดนาม ซึ่งการเข้ามาบุกตลาดในไทยครั้งนี้ ได้ตัดสินใจเลือกลงทุนร่วมกับ TFD และมั่นใจว่าหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จจะมีการขยายความร่วมมือในโครงการอื่นๆในอนาคต เนื่องจาก คันทรี การ์เด้นฯ ได้วางเป้าหมายเอาไว้ว่าภายใน 4-5 ปีข้างหน้า จะขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ทั้งนี้ TFD ไม่มีปัญหาในเรื่องของเงินลงทุนเนื่องจากได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการขยายธุรกิจเอาไว้แล้ว ที่ผ่านมาได้รับเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 250 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2 บาท ให้กับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไต้หวัน 2 ราย และนักธุรกิจอสังหาฯในไทย 1 ราย ได้เงินเข้ามากว่า 500 ล้านบาท รองรับการขยายธุรกิจในปี 2560 ตามแผน "นักธุรกิจจากไต้หวันที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP ของ TFD ทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมอยู่ที่ไต้หวัน รู้จักผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าจะช่วยแนะนำลูกค้าในไต้หวันที่ต้องการย้ายฐานการผลิต เข้ามาซื้อที่ดินหรือสร้างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม TFD เนื่องจากค่าแรงในไต้หวันแพงกว่าไทย 2-3 เท่าตัว จึงมีโอกาสที่จะมีการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย โดยในปี 2561 บริษัทฯเตรียมเปิดขายที่ดินในเฟส 3 บนพื้นที่ 1,500 ไร่ เพื่อรองรับการขยายการลงทุนของต่างชาติ ที่จะเข้ามาลงทุนในโซน EEC"นายอภิชัยกล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ