นักธรรมชาติบำบัดจากออสเตรเลียแนะนำเคล็ด(ไม่)ลับดูแลตัวเองของผู้หญิง

ข่าวทั่วไป Wednesday July 12, 2017 16:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--พีอาร์ สตอรี่ ผู้หญิงส่วนใหญ่คงเคยพบกับปัญหาต่างๆ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ไม่ว่าจะเป็นการปวดท้องประจำเดือน คัดหน้าอกก่อนการมีประจำเดือน หรือแม้แต่พฤติกรรมการกลั้นปัสสาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้หญิงที่ทำงานออฟฟิศ จนทำให้เกิดปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทุกคนสามารถดูแลตัวเองในเบื้องต้นได้ไม่ยาก ดังนั้น บริษัท แบลคมอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับสถาบันวิจัยแบลคมอร์ส จากประเทศออสเตรเลีย และคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต จึงได้จัดงานประชุมวิชาการ"ข้อมูลปัจจุบันโภชนเภสัชภัณฑ์ในร้านยา" โดยได้เชิญ มิสแคทเทอลีน คูลลิ่ง นักธรรมชาติบำบัด จากสถาบันวิจัยแบลคมอร์ส มาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับปัญหาของคุณผู้หญิง ว่า ก่อนหรือช่วงที่มีประจำเดือนผู้หญิงหลายคน มักมีอาการปวดหัวไมเกรน ปวดท้อง หงุดหงิด เครียด เกิดอาการเกร็งบริเวณ บ่า หลัง หัวไหล่ คัดเต้านม เนื่องจากฮอร์โมนไม่สมดุลและร่างกายขาดสารอาหารหลายชนิด เช่น แมกนีเซียม วิตามิน บี6 วิตามิน อี จึงควรเสริมสารอาหารเหล่านี้ให้กับร่างกาย โดยอาการปวดหัวไมเกรน อาจเกิดจากการขาดแมกนีเซียม ดังนั้น ควรทานแมกนีเซียมวันละ 300-600 มิลลิกรัม ควบคู่กับวิตามิน บี 6 ปริมาณ 100 มิลลิกรัม ส่วนวิตามิน อี จะช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน ควรทานปริมาณ 200 มิลลิกรัมต่อเนื่องกัน 5 วัน คือเริ่มทานตั้งแต่ก่อนมีประจำเดือน 2 วันและทานต่อเนื่องกันจนถึงหลังจากมีประจำเดือน 3 วัน โดยทานติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือน นอกจากนี้ อีฟนิ่ง พริมโรส จะมีคุณสมบัติช่วยต้านการอักเสบ และปรับสมดุลให้กับฮอร์โมน จึงช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านมก่อนการมีประจำเดือน โดยควรทานปริมาณ 3,000 มิลลิกรัมต่อวัน ตลอดทั้งเดือน เริ่มตั้งแต่ระหว่างมีประจำเดือนจนถึงมีประจำเดือนในรอบถัดไป นอกจากเรื่องของประจำเดือนแล้ว อีกปัญหาที่พบในผู้หญิงขณะนี้ คือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการอั้นปัสสาวะเป็นเวลานาน ทำให้ติดเชื้อแบคทีเรีย เมื่อเกิดอาการแล้วผู้ป่วยมักไปพบแพทย์และมักได้รับการรักษาโดยวิธีการทานยาปฏิชีวนะ ในปัจจุบันได้มีการค้นคว้าวิจัยพบว่า แครนเบอร์รี่มีโปรแอนโธไซยานินส์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยยับยั้งไม่ให้แบคทีเรียอีโคไลน์เกาะผนังท่อกระเพาะปัสสาวะ จึงอาจช่วยลดการกลับเป็นซ้ำของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยควรทานสารสกัดแครนเบอร์รี่ในปริมาณ 400-500 มิลลิกรัม วันละ 1-3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม การดูแลตัวเองเบื้องต้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียสำหรับผู้หญิงนั้น เมื่อเข้าห้องน้ำ ควรปัสสาวะให้หมด ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นจากด้านหน้าไปด้านหลัง สวมชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงชุดชั้นในที่รัดรูปและทำจากใยสังเคราะห์ เพื่อป้องกันการอับชื้นซึ่งจะทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงไม่ควรใช้สบู่ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีกลิ่นหอม ภายในงานยังได้เชิญ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัย มาให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมโดยเฉพาะเรื่องของผิวพรรณ โดยได้แนะนำว่า การที่จะให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามความต้องการนั้น เป็นเรื่องที่ยากมากเพราะจะต้องทานผัก ผลไม้สดทุกวันให้ครบ 7 สี ประกอบด้วย สีม่วง เขียวแก่ เขียวอ่อน ส้ม เหลือง แดง ขาว ซึ่งแต่ละสีจะมีสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระและเกลือแร่มากน้อยแตกต่างกัน นอกจากนี้นักธรรมชาติบำบัดบางท่าน แนะนำว่าควรทานผัก ผลไม้ให้ได้ประมาณ 10% ของน้ำหนักตัวทุกวัน อย่างไรก็ตามทั้งผัก ผลไม้ในปัจจุบันมีการตัดแต่งพันธุกรรม ใช้ยาฆ่าแมลง ดินที่ใช้เพาะปลูกไม่มีความสมบูรณ์ ทำให้เกลือแร่ สารอาหารในผัก ผลไม้ไม่มีคุณค่าเหมือนในอดีต ดังนั้น อาหารเสริมจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง อาหารเสริมหลักๆ ที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินรวมและเกลือแร่รวม วิตามิน ซี วิตามิน อี น้ำมันปลา อีฟนิ่ง พริมโรส และโคเอ็นไซม์ คิว เทน เป็นต้น เพราะแต่ละชนิดมีหน้าที่แตกต่างกัน โดยการทานวิตามินรวมและเกลือแร่รวม จะช่วยให้ร่างกายได้สารอาหารที่ครบเกือบทุกชนิดไม่ขาดสารอาหารตัวใดตัวหนึ่ง ส่วนประโยชน์ของวิตามิน ซี จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และจำเป็นในการสร้างคอลลาเจนให้กับผิวพรรณ วิตามิน อี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ น้ำมันปลาช่วยเรื่องผิวพรรณชุ่มชื้นและยังลดอาการอักเสบ อีฟนิ่ง พริมโรส ช่วยลดอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผื่นแพ้ที่หาสาเหตุไม่เจอ และสุดท้ายคือ โคเอ็นไซม์ คิว เทน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความเสื่อมความชราป้องกันเซลล์ต่างๆ ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็ว และยังมีความสำคัญช่วยสร้างออกซิเจนให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายได้หายใจ ทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ทั้งหมดนี้จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ทำให้ได้รู้ว่า จริงๆ แล้วการดูแลตัวเองไม่ได้ยุ่งยาก หากทุกคนใส่ใจสักนิดก็จะรู้ว่าร่างกายต้องการอะไร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ