ปภ.แนะผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ...เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

ข่าวทั่วไป Thursday July 13, 2017 11:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ โดยไม่ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ใช้ความเร็วให้เหมาะกับสถานการณ์ ลดความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ หรือทัศนวิสัยไม่ดี ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งในช่วงก่อนและขณะขับรถ หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ หากจำเป็นต้องรับสาย ควรใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ ไม่ขับรถติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ควรหยุดพักรถทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะทาง 150 – 200 กิโลเมตร เมื่อมีอาการง่วงนอน ไม่ควรฝืนขับรถโดยเด็ดขาด ควรจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย จะช่วยป้องกันการหลับใน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ตรงกับช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน ประชาชนส่วนใหญ่วางแผนเดินทางกลับภูมิลำเนา ท่องเที่ยวและทำบุญตามศาสนสถานต่างๆ จึงเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากกว่าปกติ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ ดังนี้ เร็วไม่ขับ ไม่ขับรถเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วอย่างเคร่งครัด ใช้ความเร็วในการขับรถให้เหมาะสมกับสถานการณ์ สอดคล้องกับสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ ปริมาณการจราจร และระยะในการมองเห็นเส้นทางลดความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเมื่อขับรถผ่านเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุ หรือทัศนวิสัยไม่ดี จะได้สามารถหยุดรถได้ทันเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เมาไม่ขับ ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งในช่วงก่อนและขณะขับรถ เพราะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง ไม่สามารถแก้ไขเหตุฉุกเฉินได้ทันท่วงที หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ห้ามขับรถโดยเด็ดขาด ควรให้เพื่อนที่ไม่ดื่มขับรถแทน ใช้บริการรถแท็กซี่ หรือรถโดยสารสาธารณะ กรณีไม่มีเพื่อนร่วมทาง ควรรอจนสร่างเมา ค่อยขับรถไปต่อโทรไม่ขับ ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ เพราะทำให้เหลือมือจับพวงมาลัยเพียงข้างเดียว และต้องละสายตาจากเส้นทาง จึงส่งผลต่อสมาธิและประสิทธิภาพในการขับรถ ใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ อาทิ แฮนด์ฟรี บลูทูธ หรือเปิดลำโพง แต่ไม่ควรคุยโทรศัพท์เป็นเวลานาน หรือให้เพื่อนรับโทรศัพท์แทน รวมถึงจอดรถคุยโทรศัพท์ในบริเวณที่ปลอดภัย ง่วงไม่ขับ ไม่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน หยุดพักรถทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือทุกระยะทาง 150 – 200 กิโลเมตร ในบริเวณที่ปลอดภัย เพื่อปรับเปลี่ยนอิริยาบถ หรือพักหลับประมาณ 10 – 15 นาที ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน โดยจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย จะช่วยป้องกันการหลับใน ทั้งนี้ การไม่ขับรถเร็ว ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหลังขณะขับรถ ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ และการไม่ฝืนขับรถ เมื่อมีอาการง่วงนอน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ