กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 20 กรกฎาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,236.05-1,242.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ17 อยู่ที่ 19,850 บาท โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.54 น.ของวันที่ 20/07/60)
แนวโน้มวันที่ 21 กรกฎาคม 2560
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอาจจะยังไม่สามารถดำเนินโครงการใช้จ่ายขนาดหลายล้านล้านดอลลาร์ เพราะปัญหาทางตันทางการเมืองในสหรัฐ ส่งผลให้ปธน.ทรัมป์ยังไม่สามารถทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ความไม่มั่นใจสถานการณ์ทางการเมืองของสหรัฐ ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าจนหนุนราคาทองคำให้ฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับแนวโน้มที่นักลงทุนจะลงทุนในพันธบัตรระยะยาวต่อไป เพราะพันธบัตรระยะยาวให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่าแต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าพันธบัตรระยะสั้น ทั้งนี้ อุปสงค์ในพันธบัตรระยะยาวอยู่ในระดับสูงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินที่ยังคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำต่อไป ซึ่งสร้างมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำเพิ่มเติม แม้ว่าธนาคารกลางหลายแห่งมีแนวโน้มคุมเข้มนโยบายการเงินในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ พร้อมประกาศเลื่อนเวลาในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ออกไปเป็นช่วงปีงบประมาณ 2562 เป็นการยืนยัน ว่า BOJ จะยังคงการคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายการเงินมูลค่ามหาศาลต่อไป ท่าทีดังกล่าวลดแรงกดดันต่อธนาคารกลางขนาดใหญ่ของประเทศอื่นๆ ในการเร่งการยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศถูกกดดันจากทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุ เงินบาทที่แข็งค่าขณะนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับสกุลเงินภูมิภาค ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์ ช่วงนี้เคลื่อนไหวใกล้บริเวณ 33.58 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 ปี ขณะที่ตั้งแต่ต้นปีนี้บาทแข็งค่าขึ้นมาแล้วราว 6.35% ซึ่งเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าสุดในอาเซียน และแข็งค่าเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย โดยราคาทองคำอาจมีแนวโน้มที่ยังไม่สามารถทะยานขึ้นไปได้ไกลมากนัก แนะนำให้เน้นการลงทุนระยะสั้น
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ให้รอเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดบริเวณแนวรับ ทั้งนี้ ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้านที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดให้รอเข้าซื้อที่แนวรับถัดไปบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการทำกำไรให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ แต่ถ้าราคาทองคำสามารถทะลุผ่านแนวต้าน และรักษาระดับยืนเหนือกรอบราคาได้ แนะนำนักลงทุนที่ถือทองคำอยู่ให้ถือต่อไป ซึ่งราคาทองคำน่าจะสามารถขยับตัวขึ้นต่อไปได้ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับแนะนำนักลงทุนสามรถทำการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจะการดีดตัว
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,232 (19,600บาท) 1,220 (19,400บาท) 1,209 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,250 (19,900บาท) 1,262 (20,100บาท) 1,271 (20,250บาท)
GOLD FUTURES (GFQ17)
แนวรับ 1,232 (19,750บาท) 1,220 (19,560บาท) 1,209 (19,380บาท)
แนวต้าน 1,250 (20,050บาท) 1,262 (20,240บาท) 1,271 (20,380บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999