“ALLA” โชว์กำไร Q2/60 กระฉูด 55.16% คุมต้นทุนอัพมาร์จิ้น ตุน Backlog 365 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 11, 2017 11:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น "ออลล่า" โชว์กำไรไม้สองปี 2560 โต 55.16% หลังคุมต้นทุนเพิ่มมาร์จิ้นถึงแม้รายได้ลดจากเศรษฐกิจชะลอ ตุนงานในมืออีก 365 ลบ. ทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ Q3/60 นายองอาจ ปัณฑุยากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล่า จำกัด (มหาชน) หรือ ALLA ผู้ผลิต จำหน่าย และติดตั้งเครน และรอกไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ขนถ่ายวัสดุอุปกรณ์ และสินค้าในโรงงานอุตสาหกรรม และคลังสินค้าต่าง ๆ เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯประจำไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 18.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.68 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 55.16% เมื่อเทียบกับผลประกอบการช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 12.11 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 151.43 ล้านบาท ลดลง 10.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 6.65% เมื่อเทียบกับผลประกอบการช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 162.22 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในไตรมาสที่ 2 เป็นผลมาจากการที่บริษัทฯสามารถควบคุมต้นทุนขาย และบริการ รวมถึงการบริหารจัดการด้านต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ขั้นตอนในการออกแบบ และในทุกๆขั้นตอนของการผลิต ทำให้บริษัทฯยังสามารถคงอัตราส่วนกำไรขั้นต้นไว้ได้เกินกว่าร้อยละ 30 โดยเฉพาะในไตรมาส 2 ของปี 2560 ที่อัตราส่วนกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ถึงแม้ว่ารายได้รวมชองบริษัทฯจะมีการปรับตัวลดลงจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจ ตลาดในประเทศหดตัว อุตสาหกรรมภาคเอกชนซบเซา และจากปัญหาความพร้อมในการติดตั้งงานของลูกค้า ทำให้การส่งมอบงานบางโครงการต้องเลื่อนออกไป แต่อย่างไรก็ตามบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีมูลค่างานที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ เดือนมิถุนายน 2560 จำนวน 365 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จำนวน 141 ล้านบาท ซึ่งงานที่ยังไม่ได้ส่งมอบดังกล่าวจะทยอยรับรู้รายได้ ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2560 เป็นต้นไป "ผลการดำเนินงานของกิจการในไตรมาสที่ 2 มีทิศทางที่ดีขึ้น แต่ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมายังคงได้รับผลกระทบสืบเนื่องมาจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจในปีก่อน แต่ด้วยโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯที่มั่นคง โดยยังคงมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน มีอัตราส่วนสภาพคล่องที่ดี และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ต่ำ ซึ่งในภาพรวมจากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้คาดการณ์ได้ว่ากิจการจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นในอนาคต" นายองอาจกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ