อาร์. พลัส เทคโนโลยี ทุ่มทุน 200 ล้านบาท ในไทย

ข่าวเทคโนโลยี Thursday November 8, 2001 09:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
อาร์. พลัส เทคโนโลยี บริษัทชั้นนำและเป็นบริษัทแรกของโลกในการนำเทคโนโลยีรีคอนดิชั่นนิ่ง โปรเซส (reconditioning process) มาใช้กับถุงมือยาง เพื่อสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก โดยเป็นกรรมวิธีไฮเทค สะอาด ปลอดเชื้อ เพื่อสุขอนามัยสำหรับบุคคลและผลิตภัณฑ์ในแวดวงอุตสาหกรรมไฮเทคจากประเทศเบลเยี่ยม ประกาศพร้อมลงทุน 200 ล้านบาท ในประเทศไทยภายใน 5 ปี เพื่อสร้างประเทศไทยให้เป็นฐานหลักในการดำเนินธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
นายแพทริค แฮมป์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อาร์. พลัส เทคโนโลยี กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินกิจการอย่างมั่นคงในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ จึงได้ขยายเข้าสู่ภูมิภาคเอเซีย โดยเริ่มต้นที่ประเทศไทย เพื่อวางรากฐานให้เอเซียเป็นตลาดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของบริษัทฯ เพราะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ในสภาพเศรษฐกิจของทั่วโลกในขณะนี้ จึงทำให้ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย แต่คงไว้ซึ่งคุณภาพมาตรฐานหรือดีกว่า อาร์. พลัส เทคโนโลยี จึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้แก่ลูกค้าได้ถึง 20% - 30% อีกทั้งสามารถช่วยประหยัดพลังงานถึง 80% และ ลดปริมาณขยะได้ไม่ต่ำกว่า 50% เป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมของโลก
มร. แฮมป์ เปิดเผยถึงการตัดสินใจตั้งโรงงานและย้ายฐานการดำเนินธุรกิจมายังประเทศไทยพร้อมเงินลงทุนสูงถึง 200 ล้านบาท หลังจากที่ได้ร่วมกับคณะผู้แทนการค้าจากเบลเยี่ยม มาเยือนประเทศไทยเพื่อหาโอกาสขยายความร่วมมือทางธุรกิจเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัท อาร์. พลัสฯ จึงได้ตัดสินใจมาลงทุนในไทย เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพของบุคลากร นโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เอื้อต่อการลงทุน ร่วมถึงความเสถียรภาพทางการเมือง ขณะเดียวกันประเทศไทยสามารถใช้เป็นฐานสำหรับเอเซียในการให้บริการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแถบเอเซีย ซึ่งคาดว่าความต้องการจะมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 60 ของธุรกิจในอนาคต จึงเป็นตัวเร่งให้บริษัทฯ ตัดสินใจมาตั้งโรงงานในประเทศไทย โดยโรงงานตั้งอยู่ในจังหวัดอยุธยาบนเนื้อที่ 2,400 ตารางเมตร ในนิคมอุตสาหกรรมไฮ-เทค และได้เปิดดำเนินการตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยจะทำพิธีเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2545 โดยสามารถจ้างคนไทยเพิ่มขึ้นอีกกว่า 300 ตำแหน่ง
"การที่เลือกอยุธยาเป็นทำเลที่ตั้งโรงงานเพราะลูกค้าของเราอยู่ในรัศมี 100 กิโลเมตร ซึ่งง่ายและสะดวกต่อการให้บริการ" มร. แฮมป์ กล่าว นอกจากนี้บริษัทฯ ในประเทศไทยในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางให้บริการแก่ลูกค้าไฮเทคจากยุโรปและอเมริกาเหนือด้วย พร้อมทั้งมีแผนที่จะเปิดดำเนินธุรกิจในเครือที่ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ มาเลเซีย จีน (เสิ้นเจิ้นและเซี่ยงไฮ้) และญี่ปุ่น ภายใน 5 ปีข้างหน้า เพราะบริษัทเล็งเห็นว่าตลาดในเอเซียมีศักยภาพ และมีความสำคัญสำหรับธุรกิจในอนาคต จึงได้สร้างประเทศไทยเป็นฐานสำคัญในเอเซีย
"ขณะนี้ลูกค้าหลักของบริษัทฯ อยู่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ และบริษัทฯ ได้วางแผนที่จะขยายเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหาร ยา การแพทย์ และการรักษาพยาบาล เพื่อสุขอนามัยสำหรับบุคคลผู้สวมใส่ และผลิตภัณฑ์ที่ถูกสัมผัส ซึ่งทุกวันนี้โลกมีความต้องการและให้ความสำคัญต่อสุขอนามัยและสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างยิ่ง ประมาณกันว่าถุงมือที่ใช้แล้วทิ้งทั่วโลกมีสูงถึงห้าหมื่นล้านชิ้นในแต่ละปี หรือกลายเป็นขยะมีน้ำหนักสูงถึง 500,000 ตันต่อปี การเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมาย ควบคุม การก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ความจำเป็นของการลดต้นทุนและความต้องการที่แตกต่างกันในตลาดทั่วโลก กลายเป็นแรงผลักดันให้ผู้ผลิต ถุงมือพัฒนาพลาสติกโพลิเมอร์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ปัจจัยดังกล่าวได้ผลักดันให้ผู้ผลิตถุงมือพัฒนาโพลิเมอร์ใหม่ๆ ที่มีต้นทุนสูงขึ้น และขยะถุงมือที่ผ่านการใช้งานเพียงไม่กี่ชั่วโมงได้ถูกทิ้งไป ก็เป็นตัวทำลายสภาพแวดล้อมด้วยเนื่องจากย่อยสลายได้ยาก สถานการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การที่ผู้บริโภคได้ใช้ถุงมือที่มีคุณภาพดี แต่ราคาสูง ทำให้ต้นทุนของบริษัทฯ นั้นๆ สูงตาม ฉะนั้นด้วยเทคโนโลยีรีคอนดิชั่นนิ่ง โปรเซส (reconditioning process) ซึ่งจดลิขสิทธิ์ของ อาร์. พลัส เทคโนโลยี สามารถให้ผู้บริโภคได้ใช้ถุงมือที่มีคุณภาพดี แต่ราคาถูกลง และในขณะเดียวกันยังสามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 80% และลดขยะลงได้ไม่ต่ำกว่า 50%" มร. แฮมป์ กล่าวทิ้งท้าย
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
อาร์. พลัส ฯ โทร 035-351-031
หรือ
แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ โทร 0-2434-8300
คุณศิรเวท ศุขเนตร
คุณสุจินดา อังคณาภิวัฒน์--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ