ตลท.สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน 6 เดือนแรก ปี 2543

ข่าวทั่วไป Thursday August 31, 2000 15:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--ตลาดหลักทรัพย์
ตลาดหลักทรัพย์สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนรอบ 6 เดือนแรกของปี 2543 บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่มีแนวโน้มดีขึ้น มีกำไรสุทธิ 216 บริษัท และมีผลขาดทุนสุทธิ 134 บริษัท ขณะที่ 23 กลุ่มอุตสาหกรรมในภาคการผลิตและบริการมีผลกำไร นำโดยกลุ่มเยื่อกระดาษและกระดาษ กลุ่มเครื่องมือและเครื่องจักร กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ กลุ่มบริการเฉพาะกิจ และกลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม มีกำไรสุทธิดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนรอบ 6 เดือนแรกของ ปี 2543 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2543) จากข้อมูลงบการเงินที่ผ่านการสอบทานแล้วของบริษัทจดทะเบียนจำนวน 350 บริษัท ปรากฏว่าผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มดีขึ้นกว่างวดเดียวกันของปี 2542 โดยบริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิมีจำนวน 216 บริษัท เพิ่มขึ้นจาก 196 บริษัทในปีก่อน และบริษัทที่มีผลขาดทุนสุทธิมี 134 บริษัท ลดลงจาก 154 บริษัทในปี 2542 ในขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดมีผลขาดทุนสุทธิรวม 63,788 ล้านบาท เทียบกับ 163,210 ล้านบาทในปีก่อน ลดลง 61% และเมื่อไม่รวมผลการดำเนินงานของบริษัทในกลุ่มสถาบันการเงินและบริษัทที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูการดำเนินงาน จะมีกำไรสุทธิรวม 24,503 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในรอบ 6 เดือนแรกของปี 2543 แยกตามรายกลุ่มอุตสาหกรรม พบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิมีทั้งสิ้น 23 กลุ่ม ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในภาคการผลิต อุตสาหกรรมและบริการ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ กลุ่มเยื่อกระดาษและกระดาษ กลุ่มเครื่องมือและเครื่องจักร กลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ กลุ่มบริการเฉพาะกิจ และกลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนถึง 588%, 492%, 440%, 357% และ 270% ตามลำดับ ในขณะที่กลุ่มสถาบันการเงิน (ธนาคารและเงินทุนและหลักทรัพย์) และกลุ่มบริษัทที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูการดำเนินงาน (REHABCO) มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยขาดทุนสุทธิลดลงคิดเป็น 53.30% และ 56.10%
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่สอง ปี 2543 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2543 นั้น ปรากฎว่า บริษัทจดทะเบียนที่มีกำไรสุทธิมีจำนวน 212 บริษัท มีกำไรสุทธิรวม 10,294 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิในงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่บริษัทที่มีผลขาดทุนสุทธิมีจำนวน 138 บริษัท ขาดทุนสุทธิรวม 59,273 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 47% ซึ่งเป็นผลจากการที่กลุ่มสถาบันการเงินขาดทุนสุทธิในไตรมาสนี้ลดลงจาก 120,941 ล้านบาท ในปีก่อน เหลือเพียง 38,350 ล้านบาท หรือลดลง 68 % ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทจดทะเบียนทุกบริษัทในไตรมาส 2 ปี 2543 นี้ มียอดขาดทุนสุทธิรวม 48,979 ล้านบาท ลดลงจาก 101,484 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน หรือลดลง 52%
กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปี 2543 มีจำนวน 18 กลุ่ม นำโดย กลุ่มพลังงาน กลุ่มเยื่อกระดาษและกระดาษ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิคส์ กลุ่มธุรกิจการเกษตร และกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง 5 กลุ่มดังกล่าวมีกำไรสุทธิรวม 7,298 ล้านบาท คิดเป็น 70% ของกำไรสุทธิรวมของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนที่มีผลกำไร ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลขาดทุนสุทธิมีจำนวน 13 กลุ่ม นำโดย กลุ่มธนาคาร กลุ่มบริษัทที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูการดำเนินงาน (REHABCO) กลุ่มเคมีภัณฑ์และพลาสติก กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้างและเครื่องตกแต่ง ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิรวม 53,237 ล้านบาท คิดเป็น 90% ของผลขาดทุนสุทธิรวมของกลุ่มบริษัทที่มีผลขาดทุน
นอกจากนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจในภาคการผลิต อุตสาหกรรมและบริการ (ไม่รวมผลการดำเนินงานของกลุ่มสถาบันการเงินและ REHABCO) มีแนวโน้มการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยมีกำไรก่อนผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 12,152 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับกำไร 9,207 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากยอดขายของบริษัทในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจาก 293,929 ล้านบาท ในปี 2542 เป็น 342,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิดเป็น 16% โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) 21% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อน แต่เนื่องจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาทในไตรมาสนี้ จึงทำให้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจำนวน 16,266 ล้านบาท และส่งผลให้บริษัทในกลุ่มนี้มีผลขาดทุนสุทธิ 4,114 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 26,802 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
ฝ่ายสารนิเทศ
โทร. 229-2046
โทรสาร 359-1005-6--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ