กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--อาร์เอส
"บอสใหญ่อาร์เอส" มั่นใจโค้งท้ายโตต่อเนื่อง ดันรายได้ปี 60 ทะลุเป้า ได้ "ช่อง 8-สุขภาพความงาม" หนุน หลังทำกำไร 6 เดือนแรกตุนไว้แล้วร่วม 100 ล้าน เผย "ช่อง 8"ลอยลำเรตติ้งไพร์มไทม์พุ่งแตะ 1 ล้านราย โตพรวด 40% จากช่วงต้นปี ชิงระเบิดศึกกวาดสายตาคนดูไตรมาส 4 งัดกลยุทธ์ดึง "ข่าว-ซีรีส์บอลลีวู้ด-ละคร-มวย" ดันผู้ชมทะยาน 5 แสนราย ลุยเพิ่มเวลา "คุยข่าวเย็น" พร้อมเปิดตัวรายการใหม่ "คุยข่าวค่ำ"ดึง "หนุมาน สงครามมหาเทพ" ต่อยอดเส้นซีรีส์บอลลีวู้ด ปั้น "ละครใหม่" 4 เรื่องเขย่าจอ แย้มได้ดารานักแสดงนอกค่ายระดับแม่เหล็กร่วมงานเพียบ
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เชื่อมั่นว่า ผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนหลังจะเติบโตต่อเนื่อง โดยมีช่อง 8กับธุรกิจสุขภาพและความงามเป็นหัวหอกทำรายได้ทะลุเป้าที่วางไว้ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากบริษัทฯ ทำกำไรสุทธิช่วง 6 เดือนแรกไปแล้ว 99.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 352% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ล่าสุดผลสำรวจเอจีบี นีลเส็น มีเดียรีเสิร์ช ระบุว่า ช่อง 8 เรตติ้งไพร์มไทม์เฉลี่ยร่วม 1 ล้านรายต่อนาที พุ่งทะยานสูงถึง 40% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่มีเรตติ้งเฉลี่ย 7 แสนรายต่อนาที ทำให้ขณะนี้เรตติ้งค่อนข้างแข็งแกร่งและเสถียรภาพ ขณะที่ธุรกิจสุขภาพและความงามเดินเกมรุกตามแผนตลาดโค้งท้ายเต็มสูบ หลังจากสร้างยอดขายทำนิวไฮทุกเดือนสวนทางสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว
แม้ตลอดกว่า 3 ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมทีวีถูกมองว่าเข้าสู่วิกฤต เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณาสื่อทีวีลดลงแต่จำนวนผู้เล่นเพิ่มขึ้น ทำให้ช่วงไพร์มไทม์เกิดการแข่งขันค่าโฆษณารุนแรง ขณะที่ช่วงนอน-ไพร์มไทม์ขายโฆษณาได้ยากขึ้น เพราะพฤติกรรมผู้ชมส่วนหนึ่งนิยมดูย้อนหลังบนออนไลน์ แต่มองว่าทุกวิกฤตมีโอกาส ซึ่งช่อง 8 เป็นหนึ่งในนั้น เนื่องด้วยคิดทำธุรกิจต่างจากรายอื่น คือ นำช่อง 8 ที่ทำเรตติ้งติดท็อปไฟว์ของประเทศมาต่อยอดสร้างธุรกิจสุขภาพและความงาม ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงทั่วโลก พิสูจน์ความสำเร็จจากรายได้ดีขึ้นทุกไตรมาส
สำหรับกลยุทธ์ชิงสายตาคนดูช่วงโค้งท้าย ดันเรตติ้งทะลุเป้าที่วางไว้ 500,000 รายภายในสิ้นปีนี้ รุกดึงคอนเทนต์ข่าวภายใต้คอนเซ็ปต์ "ดูง่าย เข้าใจง่าย" มาเป็นแรงส่งขยายฐานผู้ชม ประเดิมลุยขยายเวลา "คุยข่าวเย็น ช่อง8" เพิ่มเป็น 150 นาที และเปิดตัวรายการใหม่ "คุยข่าวค่ำ ช่อง8" เริ่มวันจันทร์ที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้สัดส่วนกลุ่มข่าวขยับขึ้นเป็น 40% ตามด้วยละครและ ซีรีส์ 30% วาไรตี้ 20% รายการมวยอีก 10%ส่วนเหตุผลที่เลือกเติมข่าว เพราะเป็นคอนเทนต์ที่ถนัดและทำได้ดี วัดได้จากเรตติ้ง "คุยข่าวเช้า" ทุกวันเสาร์และอาทิตย์พุ่งทะยานอันดับ 1 ขณะที่ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ทำเรตติ้งอันดับ 3 ในกลุ่มรายการข่าว อีกทั้งใช้งบลงทุนน้อยแต่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด
นอกจากคอนเทนต์ข่าวแล้ว ช่วงไพร์มไทม์วันจันทร์ถึงพฤหัสบดีใช้ "ซีรีส์บอลลีวู้ด"เป็นหัวหอก ดึง "หนุมาน สงครามมหาเทพ" สุดยอดซีรีส์แอคชั่นผสมผสานแฟนตาซีต่อยอดฐานผู้ชมไว้ต่อเนื่อง ซึ่งกระแสตอบรับดีมากออกอากาศไม่ถึงเดือนสร้างเรตติ้ง 2 ล้านรายต่อนาที รวมทั้งผลิต "ละครใหม่" 4 เรื่องลงจอ ได้แก่ ใจลวง, เงาอาถรรพ์, บุษบาเปื้อนฝุ่น และเสน่ห์นางครวญ ที่ได้ดารานักแสดงนอกค่ายระดับแม่เหล็กตบเท้าร่วมงานเพียบ ได้แก่ แอนดริว เกร้กสัน, กัปตัน-ภูธเนศ หงส์มานพ, เชียร์-ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ฯลฯ
ด้าน ช่วงไพร์มไทม์วันศุกร์ถึงอาทิตย์ส่งกลุ่มรายการมวยยึดจอทีวี ถือเป็นสถานีที่มีรายการมวยมากสุดและครองเรตติ้งสูงสุดในกลุ่มดิจิตอลทีวีเลือดใหม่ ไม่ว่าจะเป็น 8แม็กซ์ มวยไทย, เดอะ แชมป์เปี้ยน มวยไทยตัดเชือก, มวยไทย แบทเทิล และรายการ มวยมันซุปเปอร์ แม็กซ์, สังเวียนนักสู้ รวมทั้งได้ลิขสิทธิ์รายการมวยระดับโลกมาถ่ายทอดอย่างศึกมวยโลกช่อง 8 HBO Boxing และ UFC มวยกรง 8 เหลี่ยม โดยมวยต่างประเทศแมตซ์น่าสนใจ ได้แก่ UFC 215 ศึกชิงแชมป์โลกสองรุ่น UFC Fight Night ศึกสองอดีตแชมป์โลกชนกัน และUFC Fight Night ศึกอดีตแชมป์โลกล้างแค้น