DEPA นำทีมผู้ชนะ Digital Startup ศึกษางาน ณ ประเทศเกาหลีใต้ งานสัมมนา "Korea-Thailand Startup Matching Seminar"

ข่าวเทคโนโลยี Friday September 8, 2017 12:11 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา นายมีธรรม ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ (ด้านสังคม) สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ได้นำทีมผู้ชนะโครงการ Digital Startup ร่วมงานสัมมนา Business Matching "Korea-Thailand Startup Matching Seminar" ณ ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดียธุรกิจ และนวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ ระหว่างสองประเทศ โดยทั้งนี้ได้มีการนำเสนอนโยบายของสำนักงานฯ ในการร่วมสนับสนุนผลักดันให้เกิดขุมกำลังคนทางด้านดิจิทัลรุ่นใหม่ของไทย เพื่อเป็นฐานรองรับการเปลี่ยนผ่านทางยุคดิจิทัล และเป็นแรงขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในอีก 20 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานมหกรรม "Digital Thailand Big Bang 2017" ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 21-24 กันยายนนี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ชาเลนเจอร์ 1-2 จะเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ผู้ประกอบการดิจิทัลไทยได้มีโอกาสสัมผัสกับโลกเทคโนโลยีสมัยใหม่แห่งอนาคตอันใกล้ รวมถึงการนำเสนอไอเดียผลงานของทั้ง 3 ทีมจากผู้ชนะทั้ง 10 ทีม ของโครงการ Digital Startup ได้แก่ CyberrexDesign, Drivemate และ Cashgrow ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมพา Digital Startup สู่สากล โดยภายในงานได้รับความร่วมมือและได้รับการต้อนรับจาก Gyeonggi Provincial Government และ Cho Jung-Ah, Director General Gyeonggi Province เป็นอย่างดี ซึ่งทาง Gyeonggi Provincial Government ได้ให้การสนับสนุนการเสนองานและสัมมนาครั้งนี้ นายมีธรรม ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ (ด้านสังคม)สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลกล่าวถึงการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า "หลังจากที่เราได้สตาร์ทอัพชั้นยอดมาเป็น 10 ทีมสุดท้าย ทางสำนักงานฯ เอง ได้วางแนวทางในการส่งเสริมทีมผู้เข้าประกวด โดยการพาพวกเขาท่องโลกเพื่อเป็นการเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ พร้อมศึกษางานสตาร์ทอัพระดับนานาชาติ ว่าไอเดียธุรกิจเขาทำกันอย่างไร ซึ่งเรามุ่งเน้นให้โครงการ Digital Startup เป็นส่วนสำคัญในการสร้างแรงกระเพื่อมในระบบเศรษฐกิจดิจิทัล โดยการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เป็นฟันเฟืองสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิต ให้เกิดประโยชน์ด้วยใจรักและแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจเพื่อนำมาพัฒนาประเทศทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งครั้งนี้ได้นำทีมมาศึกษางานในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคงจนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่มีอิทธิพลในทางเศรษฐกิจระดับโลกได้ในช่วงเพียงแค่ไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เหมาะแก่การเรียนรู้เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจของประเทศไทย ได้การสนับสนุนจาก ทีมจังหวัดกิยองกิ ในการสัมมนาและดูงานครั้งนี้ โดยในงานสัมมนามีผู้ประกอบการ และกลุ่มสตาร์ทอัพชาวเกาหลีเข้าร่วมงานกว่า 20 ราย เพื่อแลกเปลี่ยนและเรียนรู้ผลงานของเหล่าสตาร์ทอัพ หรือนวัตกรผู้เป็นความภูมิใจจากประเทศไทย" "กิจกรรมครั้งนี้นอกจากเราจะได้ไปเรียนรู้เศรษฐกิจและธุรกิจดิจิทัลของจังหวัดกิยองกิ ประเทศเกาหลีใต้แล้ว 3 ทีมผู้ชนะตัวแทนจากประเทศไทยยังได้โชว์ศักยภาพ นำเสนอไอเดียธุรกิจสู่สายตาตลาดโลก ได้แก่ ทีม CyberrexDesign นำหนังสือ "นาก" Horror Augmented Reality & Virtual Reality Book เป็นหนังสือแนวสยองขวัญที่นำเอาเทคนิค AR และ VR มาใช้เพื่อให้เกิดภาพสามมิติเสมือนจริงออกมาจากหนังสือ และแทรกความเป็น Interactive เข้าไปด้วย, ทีม Drivemate หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น "Airbnb for cars" ที่เป็นแพลตฟอร์มเช่ารถออนไลน์รูปแบบใหม่ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ปล่อยเช่ารถกับผู้ที่ต้องการเช่ารถให้มาพบกัน อีกทั้งยังมีบริการเสริมจัดหาประกันภัยคุ้มครองรถเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ยืนยันความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งและทีม Cashgrow โชว์คลาวด์แอพพลิเคชั่นที่ช่วยบริหารจัดการกระแสเงินสด และสภาพคล่องทางการเงิน โดยนำข้อมูลรายรับรายง่ายขององค์กรมาประมวลผลให้เข้าใจได้ง่าย และนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างคำแนะนำแก่บริษัทในการนำเงินไปลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้หวังว่าจะได้ประโยชน์ทั้งชาวเกาหลีและตัวแทนของประเทศไทยสามารถนำความรู้ ระบบความคิด ไอเดียต่างๆ นำมาผสมผสาน ประยุกต์ ใช้ในธุรกิจได้เป็นอย่างดี" Cho Jung-Ah, Director General Gyeonggi Province กล่าวถึงการมีส่วนร่วมในงานสัมมนา "Korea-Thailand Startup Matching Seminar" ว่า " ทางจังหวัดกิยองกิมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกิจกรรมร่วมกับประเทศไทย และยินดีเปิดรับไอเดียต่างๆ จากสตาร์ทอัพระดับคุณภาพคับแก้วจากประเทศไทยให้เสนอแผนงานธุรกิจ ตลอดจนนวัตกรรมและเทคโนลลีสมัยใหม่ หวังเป็นอย่างยิ่งกิจกรรมครั้งนี้ผู้เข้าร่วมจะได้รับความรู้ใหม่ๆ ไปใช้ต่อยอดในการทำธุรกิจ ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ในอนาคตข้างหน้า"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ