กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ระบบเบรกเป็นอุปกรณ์สำคัญประจำรถ หากผู้ขับขี่ไม่ดูแลระบบเบรกให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ เพื่อความปลอดภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะ 10 สัญญาณเตือนความผิดปกติของระบบเบรกและการดูแลระบบเบรกอย่างถูกวิธี ดังนี้
10 สัญญาณเตือนความผิดปกติของระบบเบรก
1. เบรกดัง ดังบริเวณล้อคู่หน้าหรือหลัง ส่วนใหญ่เกิดจากผ้าเบรกและจานเบรกใกล้หมด ทำให้เกิดการเสียดสีกัน หากดังเฉพาะล้อใดล้อหนึ่ง เกิดจากฝุ่นหรือหินเข้าไปเสียดสีระหว่างผ้าเบรกกับจานเบรกหรือใช้ผ้าเบรกไม่ได้มาตรฐาน
2. เบรกสั่น เกิดจากการใช้งานระบบเบรกอย่างรุนแรง ทำให้จานเบรกคด บิดตัว หรือสึกหรอ รวมถึงเบรกเกิดความร้อนสูงและนำรถไปขับลุยน้ำ ทำให้ระบบดิสก์เบรกและดรัมเบรกมีปัญหา
3. เบรกทื่อหรือเบรกตื้อ ทำให้ต้องออกแรงเหยียบเบรกมากกว่าปกติ เกิดจากหม้อลมรั่ว ทำให้แรงสูญญากาศของหม้อลมน้อย จึงรู้สึกเหมือนเบรกไม่อยู่ หากเป็นรถเครื่องยนต์ดีเซล อาจเกิดจากปั๊มไดชาร์จเสียและสายลมรั่ว
4. เบรกต่ำหรือเบรกจม เกิดจากลูกยางปั๊มเบรกสึกหรอ ทำให้แรงดันเบรกลดลง จึงต้องเหยียบแป้นเบรกให้ลึกกว่าปกติ หรือย้ำเบรกหลายๆ ครั้ง
5. เบรกติด เบรกทำงานตลอดเวลา แม้ปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกแล้ว เกิดจากลูกยางกันฝุ่นของแม่ปั๊มเบรกฉีกขาด ทำให้กระบอกเบรกมีน้ำซึมเข้าไปจนเกิดความชื้น ส่งผลให้เกิดสนิม หรือเกิดจากลูกสูบเบรกติดขัด ทำให้ลูกสูบไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าออกได้
6. เบรกปัด เมื่อเหยียบเบรกแล้วรถมีอาการปัดหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง เกิดจากคราบน้ำมันหรือสารหล่อลื่นของชุดช่วงล่างกระเด็นเข้าจานเบรก ทำให้ผิวเบรกลื่นหรือมัน หรือเกิดจากการสึกหรอของชุดระบบเบรก ทำให้แรงกดของเบรกในแต่ละฝั่งแตกต่างกัน
7. เบรกเฟด เบรกมีอาการลื่น หรือเบรกไม่อยู่ในขณะขับรถด้วยความเร็วสูงบนเส้นทางขึ้น - ลงเขา เกิดจากการเหยียบเบรกแบบรุนแรงบ่อยครั้งในขณะที่ใช้ความเร็วสูง หากรถมีอาการดังกล่าว ให้ใช้ผ้าเบรกที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานมากขึ้น รวมถึงน้ำมันเบรกที่มีค่า DOT สูงขึ้นกว่าเดิม
8. เบรกหมด เมื่อเหยียบเบรกแล้วมีเสียงดังเหมือนเหล็กเสียดสีกัน และเบรกมีอาการสั่น เกิดจากผ้าเบรกหมด ทำให้โลหะของแผ่นผ้าเบรกเสียดสีกับจานเบรก ให้เปลี่ยนผ้าเบรกใหม่ เพื่อป้องกันผ้าเบรกเสียดสีกับจานเบรกจนได้รับความเสียหาย
9. เบรกสะท้าน เมื่อเบรกกะทันหันแล้วเกิดเสียงดังกระพือ หรือแป้นเบรกสั่นสะท้าน ซึ่งถือเป็นอาการปกติของรถ ที่ใช้ระบบเบรก ABS เมื่อเหยียบเบรกแบบฉุกเฉินจะทำให้ล้อล็อก เพื่อให้สามารถควบคุมทิศทางรถได้เต็มประสิทธิภาพ
10. เบรกแตก เกิดจากน้ำมันเบรกรั่วซึม ผ้าเบรกหมด ส่วนประกอบของระบบเบรกหลุดหลวม สายอ่อนเบรกเสื่อมสภาพ หรือลูกยางแม่ปั๊มเบรกและตัวแม่ปั๊มเบรกเสียหาย ทำให้เมื่อเหยียบเบรกแล้วแป้นเบรกจมหรือไม่ทำงาน แม้เหยียบแป้นเบรกจนสุด แต่ระดับความเร็วของรถยังไม่ลดลง
การตรวจสอบและดูแลระบบเบรก
น้ำมันเบรก
ตรวจสอบน้ำมันเบรกไม่ให้พร่องหรือต่ำกว่าค่ามาตรฐาน และมีรอยคราบน้ำมันเบรกใต้ท้องรถมากผิดปกติเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรก ทุกๆ 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร จะช่วยป้องกันการเกิดสนิมในระบบเบรกไม่นำน้ำมันเบรกที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้งาน อาทิ นำน้ำมันเบรกที่ถ่ายออกมาแล้วกลับมาใช้ใหม่ หรือนำน้ำมันเบรกต่างชนิดมาผสมกัน
ผ้าเบรก
มีความหนาไม่ต่ำกว่า 4 มิลลิเมตร เพราะหากผ้าเบรกใกล้หมด จะเกิดการเสียดสีกัน ส่งผลให้จานเบรกเป็นรอย หากปล่อยทิ้งไว้จานเบรกจะถูกขูดเป็นรอยลึก จนต้องเปลี่ยนจานเบรกใหม่
จานเบรก
หากเกิดการสึกหรอหรือพื้นผิวไม่เรียบ เป็นรอยขูดขีด ควรเจียรจานเบรกให้เรียบเสมอกันหากจานเบรกมีรอยร้าว คด บางเกินไป หรือบิดเบี้ยว ควรเปลี่ยนจานเบรกใหม่ เพราะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการหยุดรถ
ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบระบบเบรก โดยสังเกตสัญญาณเตือนความผิดปกติของเบรก รวมถึงดูแลอุปกรณ์ต่างๆ ของระบบเบรกให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการชะลอความเร็วและหยุดรถ