มาตรฐานและข้อกำหนดในการสร้างรายได้จากคอนเทนต์ของคุณบน Facebook

ข่าวเทคโนโลยี Thursday September 14, 2017 14:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์ นิค กรูดิน รองประธานฝ่ายพันธมิตรสื่อ ผู้คนใช้งาน Facebook ทุกวัน เพื่อรับข้อมูลจากเพจและสำนักข่าวต่างๆ ที่ชื่นชอบ การสร้างและพัฒนาแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เจ้าของเพจและผู้ผลิตสื่อในทุกๆ ขนาด สามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มแฟนๆ และยังสร้างรายได้จากงานของพวกเขา เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้คนในชุมชน Facebook เราต้องการสนับสนุนกลุ่มเพจและสำนักข่าวต่างๆ ที่มีความแตกต่างและหลากหลาย ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราได้นำเสนอตัวเลือกการสร้างรายได้ในหลากหลายรูปแบบเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาที่มีแบรนด์ (Branded Content) หรือบทความทันใจ (Instant Articles) และไม่นานมานี้ เราได้เริ่มทดสอบฟีเจอร์พักโฆษณา (Ad Breaks) กับสำนักข่าวกลุ่มหนึ่ง และเรากำลังเตรียมเปิดการทดสอบฟีเจอร์นี้ไปสู่วงกว้างในอนาคต จากการที่เราขยายตัวเลือกการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง อีกสิ่งที่สำคัญคือการที่เราได้ระบุข้อกำหนดที่ชัดเจนว่า สิ่งใดที่สามารถสร้างรายได้บนแพลตฟอร์มของเราบ้าง ประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายล้วนมาจากโฆษณาของผู้ลงโฆษณามากกว่า 5 ล้านรายบน Facebook ดังนั้น พวกเขาจึงต้องมั่นใจ รวมทั้งควบคุมได้ว่าโฆษณาของพวกเขานั้นควรจะปรากฏที่ใด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะนำเสนอมาตรฐานการสร้างรายได้ที่เหมาะสม มาตรฐานเหล่านี้จะมอบคำแนะนำในการใช้งานที่ชัดเจน สำหรับลักษณะของสำนักข่าวและเพจที่เหมาะสมต่อการสร้างรายได้บน Facebook รวมทั้งข้อกำหนดของประเภทคอนเทนต์ที่สามารถสร้างรายได้อีกด้วย นอกจากนี้ เรายังมีมาตรฐานที่คล้ายคลึงกันให้สำนักข่าวที่ต้องการสร้างรายได้จากเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของพวกเขาผ่านเครือข่ายกลุ่มเป้าหมาย (Audience Network) อีกด้วย เข้าถึงฟีเจอร์การสร้างรายได้บน Facebook สำหรับการเริ่มต้นใช้งานฟีเจอร์สร้างรายได้ต่างๆ คุณต้องปฏิบัติตามกฎการใช้งานและนโยบายของ Facebook ซึ่งรวมถึงมาตรฐานชุมชน, เงื่อนไขการชำระเงินของชุมชน และข้อกำหนดของเพจ เป้าหมายของเราคือการสนับสนุนผู้สร้างคอนเทนต์และสำนักข่าวที่ช่วยส่งต่อสิ่งที่ดีในชุมชน หากเพจใดที่ละเมิดนโยบายของเรา ทั้งเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา, เนื้อหาที่ถูกต้องและเหมาะสม, ความปลอดภัยของผู้ใช้งาน หรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ฉ้อโกง อาจไม่ได้รับอนุญาตให้สามารถใช้ฟีเจอร์สร้างรายได้ เจ้าของเพจและสำนักข่าวต้องมีตัวตนที่สร้างขึ้นอย่างชัดเจนบน Facebook และได้เปิดบัญชีผู้ใช้หรือเพจบน Facebook มาเป็นระยะเวลานานเพียงพอ สำหรับบางฟีเจอร์ อาทิ พักโฆษณา (Ad Breaks) ต้องการจำนวนผู้ติดตามที่เพียงพอ ซึ่งเป็นข้อกำหนดที่อาจขยายไปสู่ฟีเจอร์อื่นๆ ต่อไปในอนาคต ผู้ที่แบ่งปันคอนเทนต์ที่ขัดต่อข้อกำหนดคอนเทนต์เพื่อการสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งปันคอนเทนต์ประเภทคลิกเบทหรือจงใจให้เกินจริง หรือโพสต์ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและข่าวปลอม อาจไม่ได้รับอนุญาต หรือถูกตัดสิทธิ์ในการสร้างรายได้บน Facebook ข้อกำหนดที่ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าคอนเทนต์แบบใดที่สามารถสร้างรายได้บนแพลตฟอร์ม ข้อกำหนดเหล่านี้ช่วยมอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเภทของคอนเทนต์ที่ผู้ลงโฆษณาอาจมองว่าเปราะบาง และยังช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าควรจะเลือกสร้างรายได้จากคอนเทนต์แบบใด ตั้งแต่วันนี้ เราจะเริ่มปรับใช้ข้อกำหนดเหล่านี้กับวิดีโอบน Facebook และจะขยายไปสู่บทความทันใจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดเหล่านี้ไม่ได้ครอบคลุมทุกสถานการณ์ แต่เป็นข้อบ่งชี้ที่ดีว่าประเภทคอนเทนต์แบบใดที่มีแนวโน้มสร้างรายได้มากกว่า โปรดจำไว้ว่าถึงแม้คอนเทนต์ของคุณจะเหมาะสมกับการโฆษณา บางแบรนด์และผู้ลงโฆษณาอาจเลือกที่จะใช้การควบคุมความปลอดภัยของแบรนด์ (brand safety controls) เพื่อปรับแต่งและเลือกว่าโฆษณาจะปรากฏที่ใด หากคอนเทนต์ของคุณละเมิดต่อมาตรฐานเหล่านี้ เราจะแจ้งเตือนคุณว่าเราได้นำโฆษณาออกจากแพลตฟอร์ม หากคุณเชื่อมั่นว่าคอนเทนต์ของคุณได้รับผลกระทบจากความผิดพลาด คุณสามารถรายงานเข้ามายังช่องทางร้องเรียนได้ ข้อกำหนดเหล่านี้มุ่งเน้นเฉพาะคอนเทนต์ที่เหมาะสมสำหรับการโฆษณา คอนเทนต์ของคุณอาจได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดเหล่านี้ แต่คอนเทนต์ดังกล่าวจะยังอยู่บนแพลตฟอร์ม หากเป็นไปตามมาตรฐานชุมชนของเรา เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรฐานและข้อกำหนดเหล่านี้ จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าสามารถประสบความสำเร็จจากการสร้างรายได้จากคอนเทนต์ของคุณบน Facebook ได้อย่างไร นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการมอบความชัดเจนและโปร่งใสในการทำงานให้แก่พันธมิตรของเรา และเรายังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และประสบการณ์การใช้งานบนแพลตฟอร์มให้ทุกคน ทั้งผู้ใช้งาน สำนักข่าว ผู้สร้างคอนเทนต์ รวมถึงผู้ลงโฆษณาด้วย
แท็ก facebook   ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ