สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 14 กันยายน 2560 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 14, 2017 17:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส สภาวะตลาดวันที่ 14 กันยายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,318.75-1,324.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV17 อยู่ที่ 20,830 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,950 บาท (หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.54น. ของวันที่ 14/09/60) แนวโน้มวันที่ 15 กันยายน 2560 รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจ พบว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศขั้นตอนในการเริ่มต้นปรับลดขนาดงบที่มีขนาดสูงกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ในการประชุมวันที่ 19-20 ก.ย. แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลง โดยคาดว่า ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ไม่มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นแตะระดับเป้าหมายที่เฟด ตั้งไว้ที่ 2% จนกว่าจะถึงปี 2562 นักเศรษฐศาสตร์ 44 จาก 73 รายที่ตอบคำถามพิเศษ ระบุว่า ความเชื่อมั่นต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ได้ปรับลดลงจากเดิม ในขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่เหลืออีก 29 รายระบุว่า ความเชื่อมั่นในเรื่องนี้อยู่ที่ระดับเดิม ความชัดเจนดังกล่าวจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในระยะถัดไป ประกอบกับนักลงทุน ยังคงจับตาว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะสามารถผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี ได้หรือไม่ หลังจากนายพอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า จะมีการเปิดเผยโครงร่างของแผนภาษีในช่วงสัปดาห์ที่เริ่มต้นในวันจันทร์ที่ 25 ก.ย. โดยคณะกรรมาธิการในสภาคองเกรสจะเป็นผู้จัดทำร่างกฎหมายนี้อย่างละเอียดในช่วงสัปดาห์ต่อๆไป ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความ เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งผลักดันการปฏิรูปภาษี ขณะที่ทางด้านนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า รายได้ของรัฐบาลสหรัฐที่หายไปเพราะมาตรการปรับลดภาษี จะได้รับการชดเชยด้วยเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ในระยะสั้น ประเมินว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มจะแกว่งตัวออกด้านข้าง แม้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มขึ้นทดสอบแนวต้านในโซน 1,332-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามการจับตาความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลกนั้นยังไม่เพียงพอ เพราะการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงนี้ กดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำในประเทศค่อนข้างมาก กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังมีแนวโน้มทดสอบแนวต้านต่อไปที่ 1,332-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาราคาทองคำเมื่อมีการปรับตัวขึ้นแรงก็จะมีแรงขายทำกำไรออกมาแรงเช่นกัน โดยนักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยให้เน้นไปที่การเข้าซื้อ ทั้งนี้ประเมินแนวรับแรกไว้ที่ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,316 (20,600บาท) 1,307 (20,450บาท) 1,300 (20,350บาท) แนวต้าน 1,337 (20,950บาท) 1,347 (21,100บาท) 1,358 (21,300บาท) GOLD FUTURES (GFV17) แนวรับ 1,316 (20,720บาท) 1,307 (20,570บาท) 1,300 (20,470บาท) แนวต้าน 1,337 (21,050บาท) 1,347 (21,210บาท) 1,358 (21,380บาท) หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ