สนช.เดินหน้าพัฒนา “ย่านนวัตกรรม” 11 ย่าน อย่างต่อเนื่อง

ข่าวทั่วไป Friday September 15, 2017 16:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--ทริปเปิล เจ คอมมิวนิเคชั่น สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เดินหน้าการพัฒนาย่านนวัตกรรม 11 ย่าน แบ่งเป็นย่านนวัตกรรมในกรุงเทพฯ 7 ย่าน และ ย่านนวัตกรรมในแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก 4 ด้าน ย้ำนโยบาย Thailand 4.0 ในด้านกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และเมือง นั้นจำเป็นต้องให้ความสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ เทคโนโลยีวัสดุ (Material Technology) เทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) การเดินทางที่สะดวก (Mobility) ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. เปิดเผยภายหลังการเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ "Thailand's 4.0 economic policy - why technology and innovation needs to be the core of your business" (นโยบายเศรษฐกิจประเทศไทย 4.0 – ทำไมเทคโนโลยีและนวัตกรรมต้องเป็นหัวใจสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ) ในงาน เสวนาในงาน Thailand Real Estate Summit จัดโดย PropertyGuru ว่า "สนช.ให้ความสำคัญของการพัฒนา "ย่านนวัตกรรม" (Innovation Districts) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาทั้งหมด 11 ย่าน โดยแบ่งเป็นย่านนวัตกรรมในกรุงเทพมหานคร (Bangkok Innovation Districts) จำนวน 7 ย่าน ได้แก่ (1) ย่านนวัตกรรมโยธี (2) ย่านนวัตกรรมปทุมวัน (3) ย่านนวัตกรรมคลองสาน (4) ย่านนวัตกรรมรัตนโกสินทร์ (5) ย่านนวัตกรรมกล้วยน้ำไท (6) ย่านนวัตกรรมลาดกระบัง (7) ย่านนวัตกรรมปุณณวิถี และอีกส่วนที่สำคัญคือย่านนวัตกรรมในแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor :EEC) จำนวน 4 ย่าน ได้แก่ (1) ย่านนวัตกรรมบางแสน (2) ย่านนวัตกรรมศรีราชา (3) ย่านนวัตกรรมพัทยา (4) ย่านนวัตกรรมอู่ตะเภา-บ้านฉาง โดยย่านที่สำคัญที่ดำเนินการคือ ย่านนวัตกรรมโยธี (Yothi Innovation District) ที่จะพัฒนาการเป็น Medical hub เนื่องจากมีโรงพยาบาลอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ การเกิด Rama IX corridor ที่จะเชื่อมย่านนวัตกรรมทั้ง 2 แห่ง คือ ย่านนวัตกรรมปทุมวัน และย่านนวัตกรรมกล้วยน้ำไท เพื่อให้เป็นพื้นที่ที่สนับสนุนให้มีการลงทุนจากนักลงทุน และผู้ประกอบการด้านธุรกิจ โดยจะเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zone) ภายในเมืองต่อไป" "สำหรับนโยบาย Thailand 4.0 ในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และเมือง นั้นจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับองค์ประกอบ 3 ด้าน ได้แก่ 1.เทคโนโลยีวัสดุ (Material Technology) 2.เทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) 3.การเดินทางที่สะดวก (Mobility)" ซึ่งถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบหลักที่จะทำให้ธุรกิจสามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ