กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 25 กันยายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,290.23-1,297.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,300 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV17 อยู่ที่ 20,350 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,420 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.42น. ของวันที่ 25/09/60)
แนวโน้มวันที่ 26 กันยายน 2560
การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรี แองเจลา เมอร์เคล สามารถชนะการเลือกตั้งและได้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 4 แต่พรรคของเธอจำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม หลังจากผลการเลือกตั้งบ่งชี้คะแนนนิยมพรรคของเธอลดลง และพรรคฝ่ายขวาจัดได้รับคะแนนสนับสนุนมากขึ้นอย่างมาก รัฐบาลผสมของเยอรมนีอาจจะกระทบความหวังต่อการผนวกรวมยูโรโซนที่แข็งแกร่งขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลง จนกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงตาม ประกอบกับนักลงทุนกังวลว่าอาจจะต้องใช้เวลาหลายเดือนในการจัดตั้งรัฐบาลผสมครั้งนี้ อย่างไรก็ตามทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนหลังมูดี้ส์ประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษ ลงสู่ Aa2 โดยให้เหตุผลว่าแผนการของรัฐบาลอังกฤษในการปรับลดหนี้สินไม่ได้ดำเนินไปตามคาด และการที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือ Brexit จะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจอังกฤษ ซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงใช้ประเด็นดังกล่าวเป็นเหตุผลในหารเข้าซื้อทองคำเมื่อราคาอ่อนตัวลง และสิ่งนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอังกฤษต้องเผชิญจาก Brexit โดยอังกฤษถือเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก นอกจากนี้ทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุล อาจได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มสกุลเงินเยนได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่มีต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะของญี่ปุ่น ที่อาจจะประกาศจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในวันที่ 22 ต.ค. ทั้งนี้ประเมินว่าในระยะสั้นหากราคาทดสอบแนวต้าน 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,287-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง และหากสามารถผ่านแนวต้านแรกได้ราคามีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,287-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยหากมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านและยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขาย และนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,302-1,311 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,280 (20,000บาท) 1,273 (19,900บาท) 1,266 (19,800บาท)
แนวต้าน 1,302 (20,400บาท) 1,311 (20,550บาท) 1,320 (20,700บาท)
GOLD FUTURES (GFV17)
แนวรับ 1,280 (20,160บาท) 1,273 (20,050บาท) 1,266 (19,940บาท)
แนวต้าน 1,302 (20,510บาท) 1,311 (20,660บาท) 1,320 (20,800บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999