EA ร่วมกับ ส.อ.ท. ผนึก 3 การไฟฟ้าฯ เร่งเตรียมความพร้อมรองรับโครงการแบตเตอรี่ จ้างทีดีอาร์ไอศึกษาแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรม Grid Energy Storage ในนิคมอุตสาหกรรม New S-Curve หวังเพิ่มความแข็งแกร่ง ดันเศรษฐกิจไทยโตแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 29, 2017 09:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--IR network EA ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ 3 การไฟฟ้าเร่งศึกษารายละเอียด และเตรียมความพร้อมของระบบสำรองไฟฟ้า รองรับแผนการผลิตและการใช้ไฟฟ้าของประเทศในระยะยาว เซ็นสัญญาจ้าง TDRI ศึกษาความเหมาะสมและแนวทางการส่งเสริมอุตสาหกรรม Grid Energy Storage ที่จะลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม New S-Curve คาดได้ข้อสรุปภายใน 7 เดือน พร้อมเดินหน้าโครงการลงทุนโรงงานแบตเตอรี่มูลค่า 1 แสนล้านบาท มั่นใจช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน-ลดการนำเข้า หนุนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวในงานพิธีลงนามสัญญาว่าจ้างที่ปรึกษาจัดทำ โครงการศึกษาความเหมาะสมและแนวทางในการส่งเสริมอุตสาหกรรมสำรองไฟฟ้าสำหรับโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ (Grid Energy Storage) ว่า ส.อ.ท.ได้พิจารณาแล้วว่า อุตสาหกรรมสำรองไฟฟ้า หรือ แบตเตอรี่เป็น Quick win project สำหรับการตั้งนิคมอุตสาหกรรม New S-Curve เนื่องจากมีความพร้อมทุก ๆ ด้าน จึงเชื่อว่าสามารถเริ่มลงทุนได้เป็นกลุ่มแรกๆ และจะเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นฐานกำลังอันสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องอีกหลายแขนง เช่น การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของทั้งประเทศ ยานยนต์ไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าและอื่นๆ ด้วยการลงทุนในอุตสาหกรรมสำรองไฟฟ้านี้ ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีมูลค่าการลงทุนในระดับแสนล้าน ส.อ.ท.และเป็นก้าวแรกในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องอีกจำนวนมาก ภาคเอกชนที่สนใจลงทุนจึงได้หารือกับการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อหาวิธีการในการศึกษารายละเอียดอย่างรอบคอบ จนมีความเห็นพ้องกันว่า ควรว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญที่มีความน่าเชื่อถือ และมีความเป็นอิสระ ดังนั้น ส.อ.ท. โดยคลัสเตอร์พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงได้ทำการว่าจ้าง มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เพื่อทำ "โครงการศึกษาความเหมาะสมและแนวทางในการส่งเสริมอุตสาหกรรมสำรองไฟฟ้า" โดยมีระยะเวลาในการศึกษา 7 เดือน มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายงานผลการศึกษาที่ได้ มาประกอบการวางแผนพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ (Grid Energy Storage) เพื่อรองรับปริมาณการผลิตและใช้ไฟฟ้าในอนาคต นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า ภาคเอกชนตื่นตัวและเร่งศึกษาเทคโนโลยีแบตเตอรี่กันอย่างจริงจัง โดยในส่วนของ EA ได้เริ่มศึกษามาไม่ต่ำกว่า 3 ปีแล้ว และได้ติดตามพัฒนาการของเทคโนโลยีมาโดยตลอด เราเล็งเห็นถึงประโยชน์และความคุ้มค่าในภาพรวมของประเทศ หากสามารถนำแบตเตอรี่มาใช้เป็นระบบสำรองไฟฟ้าและทำให้เสถียรภาพในสายส่งได้ ประกอบกับขณะนี้เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีครั้งสำคัญ จึงเป็นโอกาสของผู้เล่นอย่าง EA ในการก้าวเข้ามาลงทุนเป็นรายแรกๆ โดย EA อยู่ระหว่างเตรียมที่จะลงทุนในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดกำลังการผลิตรวม 50 GWh มูลค่าประมาณ 1 แสนล้านบาท ภายใต้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีอันทันสมัยจาก Industrial Technology Research Institute หรือ ITRI ซึ่งเป็นสถาบันเพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ของรัฐบาลไต้หวัน และจะจับมือกับบริษัท Amita Technologies Inc. ผู้นำในธุรกิจแบตเตอรี่จากไต้หวัน และบริษัท Shenzen Growatt New Energy Technology Co., Ltd. ผู้ผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้ารายใหญ่จากจีน ตลอดจนพันธมิตรอื่นทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ