กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--สถาบันพัฒนาศักยภาพการแข่งขัน
ผู้หญิงกับบทบาทผู้นำยุคใหม่ ต้องฉลาด ใฝ่รู้ และเท่าทันโลกปัจจุบัน ด้วยโลกในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วสู่ยุคดิจิตอลที่เข้ามามีบทบาทในสังคมและเศรษฐกิจโลก จึงเป็นความจำเป็นที่ทุกคนต้องตื่นตัวและรับมือกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ที่เพิ่มมูลค่าในการสร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันต่างๆ สู่ความเป็นผู้นำยุคใหม่ก้าวสู่เวทีการแข่งขันระดับโลก มหาวิทยาลัยสยามจึงร่วมมือกับสถาบันกลยุทธ์และศักยภาพเชิงการแข่งขัน มหาวิทยาลัยชื่อดังก้องโลกอย่าง มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยศาสตราจารย์ ไมเคิล ฟอสเตอร์ จัดตั้ง 'สถาบันพัฒนาศักยภาพการแข่งขัน ประเทศไทย (Thailand Competitiveness Institute : TCI)' เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนด้านกลยุทธ์และวิทยาการแข่งขันและการวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศไทย
โดยมี ดร.วิจิตร สุพินิจ อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นประธานกิตติคุณ และ รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช เป็นประธานสถาบัน TCI พร้อมได้ร่วมจัดตั้งเครือข่ายการพัฒนาสังคมประเทศไทย (Social Progress Thailand) เพื่อจัดทำ Social Progress Index ซึ่งเป็นตัวบงชี้ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการเข้าถึงความรู้ เพื่อทำการศึกษาความก้าวหน้าด้านสังคมรายจังหวัด และเปิดหลักสูตร 'ผู้นำนวัตกรรม เพื่อการแข่งขันในระดับโลก (Innovtion Leadership for Global Competitiveness หรือ ILG )' รุ่นที่ 1 โดยได้รับความสนใจจากบุคคลสำคัญทางภาครัฐและภาคเอกชนหลากหลายองค์กรเข้าร่วมมากมาย อาทิ ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล, ม.ร.ว.อัครินทร์ ยุคล, มล.ณัฐกรณ์ เทวกุล, ดร.การดี เลียวไพโรจน์, ดร.แคทลีน มาลีนนท์, ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ, ม.ล.รดีเทพ เทวกุล และ ดร.เจษฎ์สุดา เบนซ์ทองหล่อ เป็นต้น รศ.ดร.จอมพงศ์ มงคลวนิช ประธานสถาบันพัฒนาศักยภาพการแข่งขัน ประเทศไทย (TCI) มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า
สถาบัน TCI พร้อมที่จะร่วมเติมเต็มความรู้และประสบการณ์หลากหลายโดยวิทยากรชั้นนำระดับประเทศและระดับโลก อาทิ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, ชาติศริ โสภณพนิช, ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, ศจ.จอห์น เอ. เดวิส จากมหาวิทยาลัยดุ๊ก และ ศจ.เคย์ ชอน แห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง เป็นต้น และพร้อมที่จะพัฒนาผู้นำสร้างนวัตกรรมใหม่ให้เกิดขึ้น เข้ากับทุกสถานการณ์ในการเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมร่วมขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดสิ่งใหม่ ตลอดจนสร้างเครือข่ายระหว่างผู้นำที่มาจากหลากหลายธุรกิจและองค์กร ในการสร้างความเข้มแข็งขับเคลื่อนเศรษฐกิจและองค์กร สู่การแข่งขันระดับโลก "ในการสร้างสรรค์ 'ผู้นำนวัตกรรม เพื่อการแข่งขันในระดับโลก' นี้จะมุ่งเน้นการพัฒนาผู้นำ เพื่อสร้างนวัตกรรมให้เกิดมุมมองใน 4 มิติ ได้แก่ Change (การเปลี่ยนแปลง) : ผู้นำที่พร้อมรับและปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ในการเปลี่ยนแปลงของโลก / Innovation (นวัตกรรมสร้างสรรค์) : ผู้นำนวัตกรรมที่สร้างสรรค์และร่วมขับเคลื่อนองค์กรให้เกิดสิ่งใหม่ เพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพเชิงการแข่งขันในระดับโลก / Freedom (อิสรภาพจากพันธนาการ) : ผู้นำที่เปิดโอกาสในการให้อิสระกับตัวตนและความคิด ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และร่วมสร้างเครือข่ายที่จะนำองค์กรก้าวสู่โอกาสในระดับโลก และ Idealism / Vision (วิสัยทัศน์ เป้าหมายอุดมคติ) : ผู้นำทางความคิดที่มีวิสัยทัศน์ มีมุมมองใหม่ และมุ่งมั่นสร้างสรรค์องค์กรสู่ความสำเร็จในระดับโลก" และในงานนี้ ผู้หญิงเก่งมากความสามารถได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรนี้ได้กล่าวถึง 'ผู้หญิงกับบทบาทผู้นำยุคใหม่' ไว้อย่างน่าสนใจ- - ดร.การดี เลียวไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ ศูนย์ C asean กล่าวว่า ผู้หญิงในยุคนี้ มีสิทธิและหน้าที่ในการพัฒนาประเทศชาติได้เท่าเทียมผู้ชาย หากมีใจที่จะทำผู้หญิงทำได้ "เข้ามาร่วมในหลักสูตรนี้ เพราะมีความน่าสนใจ เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ทำ อย่าง Social Venture Fund เป็นการทำธุรกิจเพื่อสังคม เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่จะช่วยในการสร้างและสนับสนุนชุมชนในท้องถิ่นนั้นด้วย และการได้มาร่วมได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากวิทยากรชั้นนำ สามารถที่จะนำไปต่อยอดกับศูนย์ C asean ซึ่งเป็นเวทีของ กลุ่มคนอาเซียนรุ่นใหม่ในการแลกเปลี่ยนมุมมอง แนวคิด และประสบการณ์ ที่ไม่ใช่เพียงธุรกิจ แต่มีทั้งศิลปะ และวัฒนธรรมของพลเมืองอาเซียนอีกด้วย ....กิจกรรมวันนี้ในเรื่องของแบรนด์ อินโนเวชั่น ชอบมาก ทำให้ได้มุมมองว่า ความคิดไม่ใช่จะมาจากคนเก่งเพียงอย่างเดียว แต่เป็นพลังความคิดของคนหลากหลายก็เป็นความคิดที่ดีได้ มาคนละครึ่งมาต่อยอดซึ่งกันและกัน เป็นเรื่องที่ดีค่ะ " ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซลาร์ เอ็นเนอร์จี จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า การที่ได้เข้าร่วมตรงนี้จะเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ได้มาฟังไอเดียของวิทยากรเก่งๆ หลากหลายล้วนประโยชน์กับหน้าที่การงาน แล้วมีลูกน้องเข้ามาร่วมเรียนรู้ด้วย ยิ่งทำให้มีความเข้าใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของปัญหาหรือการทำงานต่างๆ ก็จะสามารถทำงานร่วมกันและเข้าใจกันได้ดี "ผู้นำยุคใหม่ ต้องเพิ่มคุณค่าใฝ่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา และที่สำคัญ จะต้องมีทั้งไอคิวและอีคิวมาเสริมกัน ทั้งในเรื่องของการทำงานละบริหารคน ต้องให้ความสำคัญกับลูกน้อง มีการทำงานร่วมกัน แชร์ไอเดียกัน จะทำให้บรรยากาศในการทำงานสนุก แล้วงานก็จะออกมาดี" ม.ล.รดีเทพ เทวกุล รองผู้อำนวยการสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เล่าว่า หลักสูตรผู้นำนวัตกรรมฯ น่าสนใจมาก ยิ่งร่วมกับฮาร์วาร์ดด้วย ชอบเลยค่ะ เพราะจะได้นำเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์ไปต่อยอดในงานของเรา ทั้งได้เปิดโลกกว้าง ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน เพื่อเพิ่มมิติมุมมองใหม่ๆ
"ผู้หญิงในยุคนี้ เก่ง มีความสามารถ ไม่ได้มีความแตกต่างกับผู้ชายเลย ทั้งกล้าคิด กล้าทำ รวมทั้งมีมุมมองมีวิสัยทัศน์กว้างไกล...นี่แหละ ผู้นำหญิงยุคใหม่ค่ะ" ปิดท้ายด้วย สาวเก่ง มาดมั่น ดร.เจษฎ์สุดา เบนซ์ทองหล่อ ประธานและเจ้าของ บริษัท กลุ่มทองหล่อ จำกัด กล่าวว่า โลกวันนี้ เป็นโลกยุคดิจิตอล โลกเปลี่ยนไปเร็วมาก ฉะนั้นเราต้องก้าวตามให้ทัน แล้วเปิดโลกกว้างพร้อมที่จะเรียนอยู่ตลอดเวลา "ดังนั้นผู้นำหญิงยุคใหม่ ต้องพร้อมที่ก้าวเดินอย่างมั่นใจ อะไรเปลี่ยน ทำเลยให้เร็วกว่า รู้ให้เท่าทันในเรื่องของเทคโนโลยี ในเรื่องของนวัตกรรมใหม่ๆ และต้องหมั่นขวนขวายเติมความรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อก้าวสู่การแข่งขันระดับโลก"