กรุงเทพฯ--2 ต.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 29 กันยายน 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,283.05-1,289.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,350 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,350 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV17 อยู่ที่ 20,430 บาท โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,430 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.27น. ของวันที่ 29/09/60)
แนวโน้มวันที่ 02 ตุลาคม 2560
ประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2017 ขยายตัวเกินคาด 3.1% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการ และดีกว่าคาดการณ์ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง สนับสนุนแผนการคุมเข้มนโยบายการเงินของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ส่งผลกดดันราคาทองคำให้ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และมีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะปิดตลาดในรายสัปดาห์ และรายเดือนในแดนลบ อย่างไรก็ตามความวิตกเกี่ยวกับเกาหลีเหนือยังคงเป็นปัจจัยพยุงราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเกาหลีใต้คาดว่า เกาหลีเหนือจะดำเนินปฏิบัติการยั่วยุอีกในเดือนต.ค. ในช่วงที่ใกล้กับวันครบรอบการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ และในช่วงที่จีนจัดการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนเช่นกัน ขณะที่นักลงทุนชาวจีนปรับสถานะการลงทุนก่อนวันหยุดยาว โดยสัปดาห์หน้าตลาดเงินตลาดทุนของจีนจะปิดทำการตลอดสัปดาห์ เนื่องในวันชาติ แต่ทองคำได้รับแรงหนุน จากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังหลายตัวของจีนในช่วงกลางเดือนก.ย. ซึ่งรวมถึงตัวเลขการลงทุนที่เติบโตอย่างเชื่องช้าที่สุดในรอบเกือบ 18 ปี ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนอาจจะเริ่มชะลอการเติบโต สอดคล้องกับ ผลสำรวจรอยเตอร์ ที่ระบุว่า ผู้จัดการกองทุนจีนปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นสำหรับช่วง 3 เดือนข้างหน้าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากมีความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจจีน หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่เกินคาดหลายตัวในช่วงนี้ ประเด็นดังกล่าวเพิ่มความน่าสนใจในการลงทุนทองคำ เบื้องต้นแนะนำนักลงทุนรอจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงสู่แนวรับสำคัญ อย่างไรก็ตามหากราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นและมีแรงขายออกมาบริเวณแนวต้าน 1,296-1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่ผ่านแนวดังกล่าวอาจแบ่งทองคำออกขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง ทั้งนี้นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,277-1,273 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป 1,266 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,296 หรือ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง แต่ก็อาจมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,273 (20,050บาท) 1,266 (19,950บาท) 1,254 (19,750บาท)
แนวต้าน 1,296 (20,450บาท) 1,307 (20,600บาท) 1,313 (20,700บาท)
GOLD FUTURES (GFV17)
แนวรับ 1,273 (20,180บาท) 1,266 (20,070บาท) 1,254 (19,880บาท)
แนวต้าน 1,296 (20,550บาท) 1,307 (20,720บาท) 1,313 (20,820บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999