รพ.นครธน รุกบริการสู่ เมดิคอลสปาครบวงจรแห่งแรก พุ่งเป้าสู่ตลาดสากล ชูยุทธศาสตร์การรักษาแบบองค์รวม

ข่าวทั่วไป Thursday July 14, 2005 11:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--กู๊ด เน็ตเวิร์ค
โรงพยาบาลนครธน เปิดบริการใหม่ไทยเมดิคอลสปาครบวงจรเป็นแห่งแรก ชูจุดเด่นการมีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางตรวจก่อนเข้ารับบริการไทยเมดิคอลสปา พุ่งเป้าขยายบริการสู่ระดับสากล รองรับชาวต่างชาติ หลังพอใจเปิดบริการ ลูกค้าคนไทยใช้บริการเพิ่มปากต่อปาก เตรียมเสริมเขี้ยว-เล็บสนับสนุนงานการบริการ ชูจุดเด่นเป็นไทยเมดิคอลสปาเพื่อครอบครัว สร้างดุลยภาพระหว่าง กาย-จิต-วิญาณ ให้แข็งแรงเป็นหนึ่งเดียว เปิดวิสัยทัศน์ใหม่เป็นโรงพยาบาล Integrative Medicine ผสมผสานการรักษาทางการแพทย์แบบองค์รวม
นายแพทย์วิโรจน์ ตระการวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลนครธน เปิดเผยถึงการเปิดนครธนไทยเมดิคอลสปาอย่างเป็นทางการว่า เหตุที่โรงพยาบาลนครธนขยายบริการสู่การบริการด้านไทยเมดิคอลสปาในโรงพยาบาล ขึ้นเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกแบบครบวงจรโดยมีแพทย์จากศูนย์การแพทย์เฉพาะทางมาเป็นผู้ให้คำแนะนำ และตรวจก่อนเข้ารับบริการไทยเมดิคอลสปา เนื่องจากโรงพยาบาลเล็งเห็นความสำคัญในการเลือกใช้วิธีการรักษาและดูแลผู้ป่วย ด้วยศาสตร์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยแบบตะวันตก ผสมผสานกับศาสตร์ทางการแพทย์แบบตะวันออกร่วมกันเพื่อเสริมสร้างดูแลรักษาสุขภาพที่ดีของคนไทยแบบองค์รวม
“ทั้งยังเป็นสิ่งดีต่อโรงพยาบาลในอนาคต ทำให้ต้นทุนในการดูแลรักษาสุขภาพคนไทยต่ำลง ขณะที่การใช้วิธีการรักษาแบบแพทย์แผนปัจจุบันทางตะวันตก จะมีค่าใช้จ่ายและต้นทุนสูง ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับการรักษาแบบแพทย์แผนตะวันออกก็มีน้อย และยังก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของดีในประเทศ สอดคล้องกับกระแสสถานการณ์ปัจจุบันที่คนไทยหันมาสนใจวิธีการรักษาสุขภาพตนเองแบบองค์รวมเพิ่มขึ้น” นายแพทย์ วิโรจน์ กล่าวเพิ่ม
อีกทั้งยังตรงกับกระแสความต้องการของโลก (Global Trend) ที่นานาประเทศทั่วโลกต่างหันมาเน้นการรักษาแบบองค์รวมกันมาก เพื่อส่งเสริมให้รากฐานสุขภาพของคนในประเทศแข็งแรงขึ้น โรงพยาบาลนครธน จึงตั้งเป้าหมายสูงสุดเพื่อผลักดันการบริการของนครธนไทยเมดิ-คอลสปาไปสู่ตลาดโลกระดับสากลด้วย พร้อมเปิดให้บริการกับลูกค้าชาวต่างชาติในอนาคต รองรับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub of Asia
ทั้งนี้ จากที่เปิดบริการอย่างไม่เป็นทางการได้ประมาณเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ยอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ปัจจุบันเฉลี่ย 50-60 คนต่อวัน จากลูกค้าคนไทยใช้บริการอยู่เดิมแบบบอกปากต่อปาก ทำให้ทางโรงพยาบาลต้องตอบสนองต่อลูกค้าที่มีเพิมมากขึ้น ไม่เฉพาะแต่บริการกับลูกค้าคนไทยเท่านั้น ที่ผ่านมาใช้เงินลงทุนเปิดบริการนครไทยเมดิคอลสปานี้ไปแล้วประมาณ 10 ล้านบาท
ปัจจุบัน นครธนไทยเมดิคอลสปาดำเนินงานภายใต้หลักการดูแลสุขภาพทางการแพทย์แผนไทยที่สืบสานองค์ความรู้ ความชำนาญ จากภูมิปัญญาการแพทย์แผนตะวันออกและการแพทย์แผนตะวันตก โดยยึดหลักการการดูแลสุขภาพในวิถีทางธรรมชาติบำบัด หรือการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม คือ การดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ และจิตวิญญาณให้ประสานเป็นหนึ่งเดียวซึ่งมาจากพื้นฐานที่ว่ามนุษย์ประกอบด้วยธาตุแห่งชีวิต คือ ดิน น้ำลม ไฟ
“ต่อไปเราจะต้องสร้างอินเตอร์เนชั่นแนล ดีพาร์ทเม้นท์ ขึ้นมาสนับสนุนและจัดทำเวปไซต์เป็นภาษาอังกฤษ จากเดิมมีเวปไซต์เป็นภาษาไทยให้ลูกค้าเปิดเข้าชมอยู่แล้ว อีกทั้งจัดตั้งทีมบุคลากรCRM ขึ้นมารองรับ พร้อมจัดหาเอเยนซี่ทำหน้าที่สนับสนุนและติดต่อกับลูกค้าชาวต่างชาติ ทั้งประสานความร่วมมือกับบริษัททัวร์และโรงแรมชั้นนำของไทย โดยมีเป้าหมายต่อไปว่า จะขยายงานบริการไทยเมดิคอลสปาเพิ่มขึ้นให้มีสัดส่วนสูงถึง 20% ของงานบริการทั้งหมด และมีสัดส่วนชาวต่างชาติมาใช้บริการถึง 50% ในอนาคต ทั้งให้ความสำคัญต่อสถาบันครอบครัวสู่การเป็นไทย-เมดิคอลสปาเพื่อครอบครัวในขั้นต่อไปอีกด้วย”นายแพทย์ วิโรจน์ กล่าว
นายแพทย์ วิโรจน์ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลด้วยว่า โรงพยาบาลเพิ่งปรับวิสัยทัศน์ใหม่ สู่การเป็น Integrative Medicine ที่แตกต่างและโดดเด่นด้วยการสร้างดุลยภาพทางกาย (Body) ใจ (Mind) และจิตวิญญาณ (Soul) ที่ดีและแข็งแรง โดยใช้ควบคู่ไปกับความก้าวหน้าทันสมัยในการรักษาด้วยเทคนิคการแพทย์สมัยใหม่ตามแพทย์แผนปัจจุบัน ในรูปแบบของการผสมผสานซึ่งกันและกันระหว่างภูมิปัญญาไทยกับแพทย์แผนปัจจุบัน และตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรที่ดี ถือเป็นหนึ่งในแผนกลยุทธ์ของการบริหารงาน
“ขณะนี้เราฝึกการสร้างดุลยภาพของกาย ใจ และ จิตวิญญาณ เริ่มจากให้พนักงานทำการสวดมนต์ นั่งสมาธิในช่วงระหว่างพักเที่ยง ฝึกใจให้เข้าถึงร่างกายและจิตวิญญาณ เพื่อส่งผลต่อการมีร่างกายที่แข็งแรง หลังจากนั้นก็จะขยายสู่กลุ่มลูกค้าภายนอก จัดทำเป็นแพคเกจด้านสุขภาพเสริมด้วยการสอนทำอาหารสุขภาพ สอนการนวด สอนการสวดมนต์และทำสมาธิ แม้กระทั่งสอนด้านศิลปะ เป็นต้น”
อีกทั้งตั้งเป้าหมายการดำเนินการให้เป็นโรงพยาบาลฯ เป็นศูนย์การแพทย์เฉพาะทางทุกด้านแบบครบวงจร ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางที่เปิดให้บริการแล้ว ได้แก่ ศูนย์ผิวหนังความงามและเลเซอร์ ศูนย์สุขภาพ ศูนย์แม่และเด็ก ศูนย์ทันตกรรม ส่วนศูนย์เฉพาะทางใหม่ที่กำลังเปิดบริการเพิ่ม ได้แก่ ศูนย์เบาหวาน ศูนย์กระดูกและข้อ
นายแพทย์วิโรจน์ กล่าวอีกว่า กิจการของโรงพยาบาลในขณะนี้ ยังมีความสามารถรองรับการดูแลคนไข้และผู้ป่วยต่อเนื่องได้อีก 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันมีคนไข้นอก (OPD) ประมาณ 1,500 คนต่อวัน เต็มที่รับได้ถึง 2,500 คนต่อวัน และคนไข้ในปัจจุบันประมาณ 150 เตียง และสามารถรับได้ถึง 500 เตียง
นายแพทย์วิโรจน์ กล่าวถึงแนวโน้มและอนาคตของกิจการโรงพยาบาลเอกชนไทยว่า ขึ้นกับนโยบายด้านสุขภาพของรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อมาตรฐานโรงพยาบาล ให้มีคุณภาพที่ดีขึ้นหรือแย่ลง ซึ่งการดำเนินนโยบายรัฐขณะนี้ ทำให้แบ่งกิจการโรงพยาบาลเอกชนในประเทศเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีผู้ใช้บริการจากหลักประกันสุขภาพเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งกลุ่มนี้จะต้องคำนึงถึงการควบคุมต้นทุนอย่างมีเหตุมีผล และกลุ่มที่มีผู้ใช้บริการแบบยอมเสียค่าใช้จ่ายเองเป็นกลุ่มใหญ่ ซึ่งกลุ่มนี้จึงขึ้นกับว่าจะกำหนดทิศทางและวางตำแหน่งของโรงพยาบาลในคุณภาพแบบไหน เช่น โรงพยาบาลในระดับ World Class ขยายกิจการสู่ต่างประเทศ หรือ โรงพยาบาลที่มีเครือข่ายขยายสาขาครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เป็นต้น
ส่วนทางด้านต่างประเทศที่นโยบายรัฐกำหนดให้ไทยเป็น Medical Hub of Asia ถือว่าเห็นด้วยและเป็นสิ่งที่เดินมาถูกทางแล้ว เมื่อเทียบการแข่งขันระหว่างโรงพยาบาลของไทยกับสิงคโปร์แล้ว ไทยชนะสิงคโปร์ เพราะการมีเซอร์วิสมายด์ที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของคุณภาพการบริการของโรงพยาบาลไทย ขณะเดียวกันไทยมีข้อได้เปรียบตรงที่ค่าใช้จ่ายในด้านการรักษาพยาบาลที่สิงคโปร์จะแพงกว่ามาก
ทางด้าน แพทย์หญิงเพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ เลขานุการมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา สถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงการเปิดนครธนไทยเมดิคอลสปาด้วยว่า เป็นผลของการพัฒนาที่เกิดขึ้นสืบเนื่องจากโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการกับมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา กระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งศูนย์ส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลนครธน ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลนครธนได้จัดเตรียมทีมแพทย์แผนปัจจุบัน ในการConference ร่วมกับทีมแพทย์แผนไทยในการดูแลสุขภาพผู้ป่วยเฉพาะโรค อาทิ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งปกติจะมีทีมแพทย์ปัจจุบันให้การดูแลร่วมกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ ได้แก่ พยาบาล นักกายภาพบำบัด โภชนาการ เภสัชกรอยู่แล้ว ทีมการแพทย์แผนไทยจะทำงานร่วมกับทีมเหล่านี้ ร่วมกันจัดทำคู่มือการดูแลผู้ป่วยเบาหวานแบบองค์รวม โดยประสานความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและถูกวิธี และทางโรงพยาบาลยังได้เตรียมการจัดทำงานวิจัยต่างๆ เพื่อสนับสนุนและหาแนวทางการดูแลสุขภาพต่อไป สำหรับการใช้สมุนไพร ทางโรงพยาบาลนครธนได้ร่วมกับมูลนิการแพทย์แผนไทยพัฒนา ในการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรที่สืบทอดกันมาแต่โบราณมาพัฒนา เพื่อนำมาใช้ในการให้บริการในไทยเมดิคอลสปา ตัวอย่างเช่น ไทยเมดิคอลสปา ตำรับทอง ที่ผสมผสานสูตรจาก แร่ธาตุทองคำ น้ำผึ้ง ข้าวหอมมะลิ เกสรดอกไม้ ทั้ง 9 มาประยุกต์กันอย่างลงตัวในการดูแลสุขภาพผิวพรรณ
ด้วยความมุ่งมั่นในการผสมผสานภูมิปัญญาไทย ทีมีมาแต่โบราณกับการแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ วันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนควรตระหนักถึงประชาชนคนไทยควรจะได้รับการดูแลทั้งสุขภาพ กาย ใจ และจิตวิญญาณ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท กู๊ด เน็ตเวิร์ค จำกัด เป็นตัวแทนที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
คุณ ภาวินี ชนะพลชัย โทร. 02-946-8470-2, 0-9770-2659--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ