จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ประเทศไทย สานต่อโครงการ “ครอบครัวปลอดภัย รู้ทัน ป้องกันโรคไข้เลือดออก” ดึงครอบครัวสกิดใจ นำขบวนกลุ่ม อสม. ลงพื้นที่แจกทรายอะเบทให้แก่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดสงขลา

ข่าวบันเทิง Thursday October 5, 2017 09:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--5 ต.ค.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ บริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ไทย) จำกัด มุ่งหน้าสานต่อโครงการ "ครอบครัวปลอดภัย รู้ทัน ป้องกันโรคไข้เลือดออก" สู่ภาคใต้ ภูมิภาคที่พบการระบาดของโรคไข้เลือดออกสูงสุดในประเทศไทย พร้อมจับมือครอบครัวนักแสดงตัวแทนโครงการอย่าง ครอบครัวสกิดใจ โดยมีคุณป๋อ-ณัฐวุฒิ และ เอ๋-พรทิพย์ มาร่วมแบ่งปันความรู้ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น และวิธีการป้องกันโรคไข้เลือดออกง่ายๆ สำหรับครอบครัวไทย "ยุง" เป็นอันตรายใกล้ตัวก็จริงแต่ดูเหมือนคนในสังคมกลับมองข้าม ทั้งที่ยุงคือสาเหตุหลักที่ทำให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกในแต่ละปีเพิ่มมากขึ้นในระดับที่น่าตกใจ ข้อมูลจากจากรายงานการระบาดไข้เลือดออก สำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข ประจำปี พ.ศ. 2560 พบว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยไข้เลือดออกแล้วจำนวน 34,459 รายทั่วประเทศ และพบการระบาดของไข้เลือดออกมากที่สุดในภาคใต้ รวมถึง จังหวัดสงขลา พัทลุง ปัตตานี นราธิวาส และนครศรีธรรมราช ทางโครงการฯ จึงเลือกลงพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เนื่องจากเป็นเมืองสำคัญ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ และมีประชากรหนาแน่น โดยหวังให้เกิดความตระหนักรู้ และความร่วมมือในการป้องกันโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง รวมถึงในวงกว้างอย่างมีประสิทธิภาพ มร. นีราจ โกยาล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ประเทศไทย กล่าวว่า "จากประสบการณ์ของเรา เวลาเข้าไปรณรงค์ในพื้นที่ต่างๆ ด้วยการแจกใบปลิว แผ่นพับ อย่างที่เราเคยทำมาในอดีตก็ช่วยสร้างความตระหนักให้คนในชุมชนได้บ้าง แต่จากองค์ความรู้ที่เราได้รับรู้เพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เราตระหนักว่า การจะแก้ไขปัญหาเรื่องยุงได้ยั่งยืนอย่างแท้จริง ต้องทำให้คนในสังคมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และต้องอาศัยความร่วมมือและการมีส่วนร่วมจากคนในชุมชน" เพี่อเข้าถึงชุมชนและคนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง ทางโครงการฯ จึงเลือกเปิดตัว โครงการครอบครัวปลอดภัย รู้ทัน ป้องกันโรคไข้เลือดออก สำหรับภาคใต้ ณ โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) จ.สงขลา เนื่องจากสงขลาเป็นเมืองสำคัญ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ และมีประชากรหนาแน่น ทางโครงการฯ จึงคาดหวังให้เกิดความตระหนัก และความร่วมมือในการป้องกันโรคไข้เลือดออกในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง รวมถึงในวงกว้างอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี นายอนุรัฐ ไทยตรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมต้อนรับและเข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ในชุมชนไปพร้อมกันด้วย นายอนุรัฐ ไทยตรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวถึงโครงการฯ ว่า "ผมขอขอบคุณทางจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่ให้ความสำคัญกับการรณรงค์เรื่องไข้เลือดออก และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการร่วมมือการป้องกันไข้เลือดออก โดยเริ่มจากภายในครอบครัวไปสู่ชุมชน ตั้งแต่การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ตั้งแต่ในบ้านตลอดจนชุมชน ด้วยการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และร่วมกันระมัดระวัง ก็จะทำให้ไข้เลือดออกที่เป็นภัยร้ายใกล้ตัวคนไทย ลดน้อยไปได้" ภายในงาน คุณป๋อ-ณัฐวุฒิ และ เอ๋-พรทิพย์ สกิดใจ ได้มาร่วมแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับโรคไข้เลือดออก รวมถึงแนวทางการป้องกัน และการดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วย คุณเอ๋ พรทิพย์ สกิดใจ กล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปัจจุบันว่า "ในฐานะพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆ เอ๋จะเป็นคนกลัวยุงกัดเด็กๆ มาก เพราะเด็กๆ ยังไม่มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอ จะพยายามหาทางป้องกันยุงลายทุกวิถีทาง ทั้งการดูแลบ้านให้สะอาดเรียบร้อย การใช้เทคโนโลยีต่างๆ เพื่อกำจัดยุง" "ด้วยความที่บ้านใกล้แหล่งน้ำ ทำให้ช่วงเวลาเย็นๆ ที่เราปล่อยให้ลูกเล่น บางครั้งลูกอาจจะโดนยุงกัดแต่ไม่รู้ ดังนั้นเราจึงจะต้องระมัดระวังให้ลูก นอกจากนี้ ขอเสริมจากคุณเอ๋ว่า เมื่อเริ่มป่วยมีไข้สูง ควรระมัดระวัง เพราะการแยกความแตกต่างระหว่างโรคไข้หวัดและโรคไข้เลือดออกได้ยาก อย่างไรก็ตาม ถ้าใครมีไข้สูงลอย ติดต่อกันเกินกว่า 3 วันขึ้นไป โดยไม่มีอาการร่วมอย่างอื่น ให้ปฐมพยาบาลเบื้องตันด้วยการเช็ดตัวเพื่อลดไข้ จากนั้นให้รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ อย่ารอให้ช้าเกินไป อย่าชะล่าใจหรือประมาทยุงทั้งหลาย เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้" คุณป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ กล่าวทิ้งท้าย นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ระบุว่า โรคไข้เลือดออก มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ หากเกิดขึ้นแล้ว สามารถเป็นซ้ำได้อีกและจะมีอาการรุนแรงขึ้น หากป่วยเป็นไข้เลือดออก อย่าซื้อยาทานเอง เนื่องจากในบางครั้งผู้จ่ายยาอาจไม่ใช่เภสัชกรโดยตรง รวมทั้งควรระมัดระวังในการรับประทานยา หากป่วยเป็นไข้เลือดออก ควรรับประทานยาพาราเซตามอล เนื่องจากยาแอสไพริน หรือไอบูโปรเฟนทำให้เลือดออกมากขึ้น รวมทั้งระคายเคืองกระเพาะอาหาร และควรรับประทานยาให้เหมาะสมกับช่วงวัย เพราะการรับประทานยาเกินขนาดอาจมีผลต่อการทำงานของตับได้ หลังจากพูดคุยให้ความรู้แก่เด็กนักเรียน และคนในชุมชนอย่างเต็มอิ่มแล้ว ผู้บริหาร มร. นีราจ โกยาล ยังได้นำทีมกลุ่ม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน รวมทั้งครอบครัวสกิดใจ ลงพื้นที่แจกทรายอะเบทแก่ชุมชนโดยรอบภายใต้บรรยากาศคึกคักสนุกสนานและเป็นกันเอง แม้ไข้เลือดออก จะเป็นภัยร้ายอันตราย แต่หากครอบครัวไทยต่างร่วมมือ ช่วยกันระมัดระวัง หมั่นรักษาสภาพแวดล้อมให้สะอาด ร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย รวมทั้งช่วยกันดูแลคนภายในครอบครัว และรู้วิธีรับมือปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง ก็จะทำให้สังคมไทย ปลอดภัยจากไข้เลือดออกในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ