กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--เอบีเอ็ม
ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมขยายตัวแรงถึง 50% หนุนธุรกิจมูลค่า $4.4 พันล้านต่อเนื่อง
นิตยสารแอด เอจ ประกาศให้เอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟเป็นเครือข่ายดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด ทั้งในระดับโลกและในสหรัฐอเมริกา ในรายงานเอเจนซีประจำปี 2560 ของนิตยสาร ซึ่งนับเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่เอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟ ได้ครองตำแหน่งเครือข่ายดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด โดยการวิเคราะห์เป็นผลมาจากการประเมินเอเจนซี เครือข่าย และบริษัทต่าง ๆ มากกว่า 700 แห่ง
รายงานเอเจนซีประจำปีของนิตยสารแอด เอจ ยังได้จัดอันดับเอเจนซีต่าง ๆ โดยพิจารณารายได้จากทั่วโลกและในสหรัฐอเมริกาในปี 2559 ซึ่งเอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟมีรายได้ทั่วโลกสูงสุดมากกว่าเครือข่ายดิจิทัลทั้งหมด ด้วยมูลค่า 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับงวดปีการเงิน 2559 (งวดปีการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค.) นับเป็นอัตราการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถึง 50.9% นอกจากนี้ เอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟ ยังควบตำแหน่งผู้นำเครือข่ายรวมทั่วโลกที่ใหญ่ที่สุด ก้าวขึ้นมาจากอันดับ 4 ในปีที่ผ่านมา
เอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟ ครองตำแหน่งต่าง ๆ ในรายงาน ดังนี้:
ทั่วโลก
#1 ในกลุ่มเครือข่ายดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด 15 อันดับแรกของโลก (World's 15 Largest Digital Networks)
#1 ในกลุ่มเครือข่ายรวมที่ใหญ่ที่สุด 25 อันดับแรกของโลก (World's 25 Largest Consolidated Networks)
#6 ในกลุ่มเอเจนซีหรือตัวแทนที่ใหญ่ที่สุด 25 อันดับแรกของโลก (World's 25 Largest Agency Companies)
สหรัฐอเมริกา
#1 ในกลุ่มเครือข่ายดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด 50 อันดับในสหรัฐฯ (50 Largest U.S. Digital Networks)
#2 ในกลุ่มเอเจนซีที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ จากทุกสาขา (Largest U.S. Agencies from All Disciplines)
ตำแหน่งต่าง ๆ สะท้อนถึงปีที่เป็นเกียรติประวัติของเอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟ และสะท้อนถึงความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในแง่การสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป ซึ่งต้องเชื่อมโยงกันทั้งด้านการตลาด เทคโนโลยี และแบรนด์
"แบรนด์ต่าง ๆ ทุกวันนี้ สรรค์สร้างขึ้นมาจากประสบการณ์ของลูกค้าที่มีต่อบริษัทมายาวนานผ่านหลากหลายช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางดิจิทัลที่นับแต่จะเพิ่มขึ้น" นายนนทวัฒน์ พุ่มชูศรี กรรมการผู้จัดการ เอคเซนเชอร์ ประเทศไทย กล่าว "เราต้องยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้เชื่อมต่อกัน ระหว่างการตลาด ธุรกิจ และเทคโนโลยี ซึ่งลูกค้าที่มาหาเราก็มองหาการผนึกประสานของสามสิ่งนี้ การจัดอันดับผู้นำเครือข่ายดิจิทัลที่เราได้รับจึงเป็นการตอกย้ำถึงบริการที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเรา ในฐานะองค์กรที่ผสานความเป็นเอเจนซีสร้างสรรค์ ที่ปรึกษาธุรกิจ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งหมดนี้มุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เหนือกว่าที่ใดในโลก"
ปี 2559 นับเป็นปีแห่งความสำเร็จสำหรับเอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟ ด้วยผลงานที่โดดเด่นเหล่านี้:
เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ อาทิ เครื่องฉายภาพสามมิติ (visualizer) แสดงรถต้นแบบสามมิติตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยีเออาร์, เอคเซนเชอร์ จีโนม (Accenture Genome) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตรงตามความต้องการของแต่ละบุคคลได้ รวมทั้งบริการแชตบอตรายแรก ๆ ในวงการสายการบิน
บุกตลาดใหม่ ๆ รวมทั้งในอาร์เจนติน่า และญี่ปุ่น ผ่านการเข้าซื้อกิจการไอเอ็มเจ (IMJ)เปิดสตูดิโอ เอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟในฮ่องกง บราซิล ชิคาโก รวมทั้งสตูดิโอฟยอร์ดดีไซน์ในเมืองดับลิน โดยแต่ละที่เน้นบรรยากาศการทำงานที่ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ร่วมกัน (co-creation) กับลูกค้า
ได้ลูกค้ารายใหม่ ๆ อาทิ Cushman & Wakefield, ENGIE, Golden State Warriors, L'Oreal และ SKY Cable Corporation
ได้รับตำแหน่งพันธมิตรธุรกิจแห่งปี (Partner of Year) จาก Adobe, SAP Hybris และ Elastic Path
ดึงผู้มีชื่อเสียงในวงการต่าง ๆ มาร่วมงาน เช่น แทมมี่ ซัวเรส อดีตซีอีโอของ Rosetta ลอร์น่า รอสส์ จาก Mayo Clinic และแอโค มอลิแตร์โน ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ชาวบราซิลที่มีชื่อเสียง
"การปรับทุกอย่างให้เข้าสู่ระบบดิจิทัล (digitization) ได้เปลี่ยนวิถีที่แบรนด์ดึงดูดความสนใจและมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคตั้งแต่ระดับฐานราก จึงต้องอาศัยเอเจนซีพันธมิตรยุคใหม่ ที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้ง เข้ามาช่วยปรับกระบวนทัศน์ความคิดในทุกแง่มุมเกี่ยวกับลูกค้าและประสบการณ์ของผู้ใช้ ดังนั้นประธานเจ้าหน้าที่การตลาดจึงมองหาโซลูชั่นที่อยู่ตรงกลางระหว่างการสร้างแบรนด์ การตลาด และเทคโนโลยี และมองหาพันธมิตรที่สามารถนำแนวคิดและความเชี่ยวชาญต่าง ๆ ที่สร้างสรรค์ มาช่วยพวกเขาในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการสร้างการเปลี่ยนแปลง(disruption) และการทดลอง (experimentation) ทั้งนี้ เรามีความภูมิใจที่นิตยสารแอดเอจได้ให้รางวัลแก่เอคเซนเชอร์ อินเทอร์แอคทีฟ โดยเล็งเห็นว่าเรานำเสนอสิ่งที่ไม่เหมือนใครและสร้างความแปลกใหม่ให้กับตลาด" นายนนทวัฒน์กล่าวเสริม
รายงาน Agency Report แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจด้านดิจิทัลโดยรวม คิดเป็นสัดส่วน 46.6% ของเอเจนซีในสหรัฐฯ ในปี 2559 ซึ่งเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รายงานยังระบุว่า สภาพตลาดเอเจนซีโดยรวม มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง โดยกิจการที่ปรึกษามีการเติบโตอย่างรวดเร็ว "ด้วยการสร้างฐานแผนกการตลาดให้แข็งแกร่ง และนำโซลูชั่นด้านอนาลิติกส์และด้านกลยุทธ์ต่าง ๆ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาในองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพสำหรับประธานเจ้าหน้าที่การตลาด" สำหรับรายงานเอเจนซีฉบับที่ 73 ของ Advertising Age มีการตีพิมพ์เผยแพร่เป็นรายปี นับตั้งแต่พ.ศ. 2488 ซึ่งได้จัดอันดับต่าง ๆ ในกลุ่มเอเจนซีที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รวมถึงจัดอันดับบริษัทเอเจนซีโดยพิจารณาจากรายได้ในปีก่อนหน้า ผู้สนใจสามารถอ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ AdAge.com/agencyreport2017