กระทรวงเกษตรฯ เผยความก้าวหน้าโครงการโคบาลบูรพา ย้ำดูแลสัตว์เคลื่อนย้ายไม่ให้มีปัญหา ยืนยันไม่มีโรค เตรียมทีมสัตวแพทย์เฝ้าดูอาการในพื้นที่

ข่าวทั่วไป Thursday November 9, 2017 13:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความก้าวหน้าโครงการโคบาลบูรพา ว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร โดยดำเนินการโครงการ "โคบาลบูรพา" ส่งเสริมให้ชาวบ้านเลี้ยงโค-แพะ ในพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อเน้นประสานความร่วมมือกับเกษตรกรและรวมกันเป็นกลุ่มเกษตรกรสร้างความเข้มแข็งร่วมสร้างอาชีพใหม่ที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ขณะนี้ มีความก้าวหน้าของโครงการเป็นที่น่าพอใจ ทั้งความพร้อมของเกษตรกร ได้มีการฝึกอบรม ดูงาน รวมทั้งความพร้อมด้านอาหารสัตว์ ตลอดจนความพร้อมของคอกกักสัตว์ ซึ่งได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถอดบทเรียนจากการดำเนินงานเดิม นำจุดอ่อนมาปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากตั้งใจให้โครงนี้เกิดความสมบูรณ์มากที่สุด ทั้งนี้เตรียมดำเนินการแจกโค-กระบือชุดแรกให้เกษตรกร ในวันที่ 24 พ.ย. 60 ณ โรงเรียนซับนกแก้ว วิทยา จ.สระแก้ว "สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่า มีโค-กระบือ ปากเท้าเปื่อยนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง โดยสั่งการให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบในพื้นแล้ว พบว่า เป็นแผลที่เกิดจากการเคลื่อนย้าย ซึ่งจะดำเนินการรักษาโดยทีมสัตวแพทย์ที่คอยดูแล ไม่มีการปล่อยให้โค-กระบือที่มีปัญหาลงในพื้นที่ ขอให้ประชาชนสบายใจได้" พลเอกฉัตรชัย กล่าว ด้านนายสัตวแพทย์อภัย สุทธิสังข์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของโครงการโคบาลบูรพาทั้ง 3 ด้านว่า 1. ด้านความพร้อมเกษตรกร มีการฝึกอบรมเกษตรกร และพาศึกษาดูงาน รวมกลุ่มเตรียมจัดทำคอกเลี้ยงไว้รอ 2. การเตรียมความพร้อมด้านอาหารสัตว์ มีเกษตรกรจำนวน 2,000 ราย ได้ปลูกพืชอาหารสัตว์ จำนวน 10,000 ไร่ และสร้างโรงเรือนแล้ว 2,000 หลัง ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการเร่งรัดดำเนินการ 3. ความพร้อมของสัตว์และคอกกักสัตว์ จะกักเลี้ยงดูอาการไม่น้อยกว่า 21 วัน ในคอกกักของกรมปศุสัตว์ โดยจะทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ ถ่ายพยาธิ เจาะเลือด ตรวจโรค ฉีดวัคซีน พ่นยาฆ่าเชื้อ และกักโรคต้นทาง เมื่ออาการปกติแล้ว จึงเคลื่อนย้ายสัตว์ไปยังคอกพักสัตว์ปลายทาง ในพื้นที่ที่กรมปศุสัตว์กำหนด อยู่ในคอกรวมเพื่อปรับสภาพอีกไม่น้อยกว่า 3 วัน และมีคณะกรรมการตรวจสอบ ตรวจรับ ตามรายละเอียดคุณลักษณะ ทั้งนี้ ต้องระมัดระวังในระหว่างการเคลื่อนย้าย ไม่ให้สัตว์เกิดการบาดเจ็บ ซึ่งในการดูแลสัตว์ในพื้นที่ปลายทางนั้นได้เตรียมชุดสัตวแพทย์ดูแล 30 ชุด อำเภอละ 10 ชุด เพื่อให้สัตว์ฟื้นสภาพโดยเร็วและดูแลสัตว์จนกว่าจะตั้งท้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ