(ต่อ 1) อินเทลสร้างรายได้ไตรมาสแรกปี 2544 มูลค่า 6.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ Source - Press Release, General (Th/Eng)

ข่าวทั่วไป Tuesday April 24, 2001 10:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
สถานการณ์แนวโน้มและคำแถลงการณ์เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
อินเทลคาดว่าในระหว่างไตรมาสนี้จะจัดให้มีการประชุมภายในระหว่างตัวแทนบริษัทกับผู้ลงทุน สื่อมวลชน นักวิเคราะห์การลงทุน และผู้สนใจอื่นๆ ในการประชุมดังกล่าว อินเทลจะมีการย้ำให้ทราบถึงรายละเอียดแนวโน้มแผนการธุรกิจ ดังที่ได้มีการตีพิมพ์ในเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ ในขณะเดียวกัน อินเทลจะเผยแพร่เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ตลอดจนแนวโน้มธุรกิจลงบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ด้วย (www.intc.com) ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่ช่วง "งดให้ข่าว" (ตามข้อมูลด้านล่าง) บุคคลทั่วไปสามารถเชื่อถือข้อมูลในภาพรวมธุรกิจบนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ เนื่องจากข้อมูล ดังกล่าวยังคงเป็นการคาดการณ์ล่าสุดของอินเทลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เว้นเสียแต่อินเทลจะมีการประกาศข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดินในภายหลัง อินเทลกำหนดจะตีพิมพ์ "ข้อมูลล่าสุดทางธุรกิจ" (Business Update) สำหรับเผยแพร่ให้กับสื่อมวลชนในวันที่ 7 มิถุนายน 2544 พร้อมทั้งจัดให้มีการประชุมทางโทรศัพท์กับบรรดานักวิเคราะห์ที่เกี่ยวข้อง (ผู้สนใจสามารถรับฟังได้ทางเว็บแคสต์) ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2544 จนกระทั่งถึงวันตีพิมพ์ "ข้อมูลล่าสุดทางธุรกิจ" (Business Update) ทั้งนี้อินเทลจะอยู่ในช่วง "งดให้ข่าว" ในช่วงระยะดังกล่าวนี้ ข้อมูลที่พิมพ์ในเอกสารสำหรับเผยแพร่ให้กับสื่อมวลชนฉบับนี้ และรายงานของบริษัทที่จัดทำเพื่อส่งต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ตามแบบ 10-K และ 10-Q นั้นจะถือเป็นข้อมูลเก่า คือเป็นข้อมูลที่ใช้ได้เฉพาะก่อนหน้าจะถึงช่วง "งดให้ข่าว" และไม่ถือเป็นข้อมูลล่าสุดของบริษัทฯ ในช่วง "งดให้ข่าว" นี้ ตัวแทนของบริษัทฯ จะไม่แสดความเห็นใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับแผนการณ์ ผลประกอบการ หรือการประมาณการทางการเงินของอินเทล
สำหรับ "ช่วงงดให้ข่าว" จะดำเนินการวิธีเดียวกันกับการจัดทำ "ข้อมูลล่าสุดทางธุรกิจ" และการยื่นรายงานต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ (SEC) โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2544 จนถึงกำหนดการพิมพ์เผยแพร่ผลประกอบการประจำไตรมาสถัดไป ซึ่งกำหนดเป็น วันที่ 17 มิถุนายน 2544
สรุปการดำเนินธุรกิจประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2544
กลุ่มธุรกิจสถาปัตยกรรมอินเทล
** ยอดการจัดส่งไมโครโปรเซสเซอร์ ลดลงจากไตรมาส ที่ 4
** ยอดการจัดส่ง ชิปเซ็ต ลดลงจากไตรมาส ที่ 4
** ยอดการจัดส่งมาเธอร์บอร์ด ลดลงในไตรมาส ที่ 4
กลุ่มธุรกิจระบบการสื่อสารไร้สายและการประมวลผล
** ยอดการจัดส่งแฟลช เมมโมรี ลดลงจากไตรมาส ที่ 4 กลุ่มอินเทลคอมมิวนิเคชั่น (เดิมคือกลุ่มธุรกิจระบบเครือข่ายสื่อสารคมนาคม และกลุ่มธุรกิจ ผลิตภัณฑ์สื่อสารโทรคมนาคม)
** ยอดการจัดส่งเครือข่ายอีเทอร์เน็ตความเร็วสูงและกิกะบิตอีเธอร์เน็ต ลดลงจากไตรมาส ที่ 4
** ยอดการจัดส่งชิ้นส่วนประมวลผลเครือข่าย ซึ่งรวมถึง เพนเทียมƒ ทรี โปรเซสเซอร์ ที่ ประกอบไว้ภายใน , โปรเซสเซอร์เครือข่าย และ ไอโอโปรเซสเซอร์ ลดลงจากไตรมาส ที่ 4
** ยอดการจัดส่งไมโครคอนโทรลเลอร์ ลดลงจากไตรมาส ที่ 4 สรุปภาพรวมด้านการเงิน
** ราคาจำหน่ายเฉลี่ยของไมโครโปรเซสเซอร์ในไตรมาสแรก ลดลงกว่าในไตรมาส ที่ 4
** อัตรากำไรขั้นต้น เทียบเท่ากับร้อยละ 51.7 ของไตรมาสที่หนึ่ง เป็นไปตามที่ประมาณการณ์ไว้ว่าจะลดลงจากไตรมาสสี่ที่ร้อยละ 63 เนื่องจากการลดลงของรายได้ในไตรมาสที่ 1
** ค่าใช้จ่าย (ด้านการวิจัยและพัฒนา ซึ่งไม่รวมการวิจัยและพัฒนาที่อยู่ในระหว่างการเข้าซื้อกิจการ แต่รวมค่าใช้จ่ายในการควบรวมกิจการ) ในไตรมาสที่ 1 มีจำนวน 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 11 จากค่าใช้จ่ายในไตรมาสสี่ของปีที่แล้ว ค่าใช้จ่ายในไตรมาสที่ 1 นี้ สูงกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ว่าจะลดลงประมาณร้อยละ 15 เนื่องจากการลดค่าใช้จ่ายที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้จากการจ้างงานตามสัญญาเดิมและการใช้จ่ายที่ไม่ต่อเนื่อง
** รายได้ในไตรมาสที่ 1 จากการลงทุน ดอกเบี้ยรับและรายได้อื่น มีมูลค่า 246 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการไว้ที่ 180 ล้านเหรียญสหรัฐ ดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นรวมทั้งรายได้ก่อนหักภาษีจากการปรับปรุงรายการตามมาตรฐานทางบัญชีการเงินที่ 133 เรื่องการบัญชีสำหรับ ตราสารอนุพันธุ์ และการประกันความเสี่ยง รายได้ส่วนนี้ได้มาจากการปรับราคาของตราสารอนุพันธ์อินเทลให้เป็นตามราคาตลาด การปรับปรุงรายการดังกล่าวทำให้มีการจัดชั้นสินทรัพย์จำนวน 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐใหม่จากการลงทุนระยะสั้นไปเป็นสินทรัพย์เพื่อการค้า อินเทลไม่มีรายได้จากการลงทุนในหุ้นทุนหลังจากการรับรู้รายได้มูลค่า 428 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งได้หักล้างกับยอดสำรองเผื่อการขาดทุนไปแล้วเต็มจำนวน
** อัตราภาษีที่บริษัทต้องชำระในไตรมาสที่หนึ่ง มีจำนวนประมาณร้อยละ 29.8 ทั้งนี้ไม่รวมถึง ผลกระทบจากค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการ
**การตัดจำหน่ายมูลค่าของชื่อเสียงและสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับการควบรวมกิจการคิดเป็นมูลค่า 585 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 465 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นผลมาจากการตัดจำหน่ายมูลค่าของชื่อเสียงที่เกิดจากการควบรวมกิจการและผลของการควบรวมกิจการหลังวันที่ 8 มีนาคม
การดำเนินธุรกิจที่โดดเด่นประจำไตรมาสที่หนึ่งของปี 2544
กลุ่มธุรกิจสถาปัตยกรรมอินเทล
**ในเดือนมกราคมบริษัทได้แนะนำไมโครโปรเซสเซอร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบ พกพา รุ่นกินไฟต่ำรุ่นใหม่ 2 รุ่น คือ อินเทล เพนเทียมƒ ทรี โปรเซสเซอร์ ความเร็ว 500 เมกะเฮิรตซ์ รุ่นกินไฟต่ำ โดยใช้เทคโนโลยี Intel ‚ SpeedStep ƒ และอินเทล เซลเลอรอนƒ โปรเซสเซอร์ ความเร็ว 500 เมกะเฮิรตซ์ รุ่นกินไฟต่ำ นับเป็นรุ่นแรกในอุตสาหกรรมไมโครโปร - เซสเซอร์ที่สามารถทำงานได้ภายใต้ แรงดัน 1 โวลต์และกินไฟต่ำ โดยใช้ไฟน้อยกว่าครึ่งวัตต์ โดยถูกออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูง กินไฟต่ำช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบพกพา โดยใช้เทคนิคการออกแบบโปรเซสเซอร์ชั้นสูงและเทคโนโลยีการลดการใช้พลังงานของอินเทล
**ในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทได้แนะนำโปรเซสเซอร์รุ่น อินเทล‚ เพนเทียมƒ ทรี โปรเซสเซอร์ ความเร็ว 700 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Intel ‚ SpeedStep ƒ ซึ่งเป็นโพรเซสเซอร์ที่ให้ ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีเลิศ ประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนาน เทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์รุ่นพกพาที่น้ำหนักน้อยกว่า 3 ปอนด์
** ในเดือนมีนาคม อินเทลประกาศการเริ่มจัดส่งไมโครโปรเซสเซอร์รุ่น อินเทล‚เพนเทียมƒ ทรี Xeon ƒ ความเร็ว 900 เมกะเฮิรตซ์ ที่มี L2 cache ขนาด 2 เมกะไบท์ (MB) on-die level-two (L2) cache โปรเซสเซอร์รุ่นนี้ให้ประสิทธิภาพที่เหนือระดับสำหรับสินค้าตลาดเซิร์ฟเวอร์ระดับบนที่ใช้ระบบมัลติโปรเซสเซอร์ขนาด 4 หรือ 8 ไมโครโปรเซสเซอร์
** ในเดือนมีนาคม บริษัทได้เริ่มจัดส่งไมโครโปรเซสเซอร์รุ่น อินเทล‚ เพนเทียมƒ ทรี โปรเซสเซอร์ ขนาดความเร็ว 1 กิกะเฮิรตซ์ ที่ใช้เทคโนโลยี Intel SpeedStep ƒ ซึ่งเป็น ไมโครโปรเซสเซอร์สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบบพกพาที่เร็วที่สุดในโลก โดยถูก ออกแบบมาสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ครุ่นบางเบาน้ำหนักน้อยที่ได้รับความนิยมสูงสุด
** ในเดือนเมษายน บริษัทแนะนำ ไมโครโปรเซสเซอร์รุ่น Intel ‚ Celeron ƒ โปรเซสเซอร์ รุ่นความเร็ว 850 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นที่มีความเร็วสูงสุดสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่น Value PC
กลุ่มธุรกิจเครือข่ายการสื่อสารไร้สาย
**ในเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทได้ประกาศว่า บริษัท โซเนอรา (Sonera) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต และ ให้บริการชั้นนำในด้านระบบติดต่อสื่อสารเคลื่อนที่ได้แนะนำ Intel ‚ Personal Internet Client Architecture (Intel PCA) เพื่อที่พัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้ในอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายเพื่อคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้การร่วมทุนของบริษัทโซเนอราและกองทุนอินเทลคอมมิวนิเคชั่นได้ประกาศว่าจะให้การสนับสนุนแก่บริษัทที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเกี่ยวกับอุปกรณ์สำหรับอินเตอร์เน็ตไร้สายต่อไปในอนาคต
**ในเดือนเดียวกันนี้ อินเทลยังได้แนะนำสินค้าใหม่ในตระกูลแฟลช เมมโมรี คือ Intel Persistent Storage Manager (PSM) เวอร์ชั่น 3.0, PCM สามารถใช้เป็น flash file และ media manager ที่ใช้แปลงโค้ด ใช้เป็นที่เก็บไฟล์ และ ไฟล์สำรองได้ โดยเมื่อประสานร่วมกับ Intel StrataFlash ƒ Memory โดยเป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาใช้ร่วมกับไมโครซอฟวินโดร์ LE โดยเฉพาะ
** นอกจากนี้ ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้เอง อินเทลได้ประกาศว่าจะผลิตแฟลช เมมโมรีประสิทธิภาพสูงให้ ซิสโก้ ซิสเต็มส์ เพื่อใช้ในเทคโนโลยีการคมนาคมต่างๆ และให้แก่บริษัท ซีเมนส์ เอจี (Siemens AG) สำหรับโทรศัพท์ไร้สายรุ่นต่อไปที่สามารถติดต่ออินเตอร์เน็ตได้
** ในเดือนมีนาคมบริษัทประกาศความร่วมมือกับบริษัทไอบีเอ็มผลิตซอฟแวร์ที่ออกแบบให้ทำงานกับ Intel ‚ Personal Internet Client Architecture (Intel PCA) สำหรับอุปกรณ์แบบไร้สายและอินเตอร์เน็ตอื่นๆได้ ทั้งสองบริษัทจะทำงานไปด้วยกันเพื่อผลิตฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์รุ่นต่อไปสำหรับอุปกรณ์อินเตอร์เน็ตที่ใช้ในบ้าน
กลุ่มธุรกิจระบบสื่อสารคมนาคม
** ในเดือนมกราคมอินเทลประกาศว่าตกลงทำสัญญาผ่านบริษัทย่อยของอินเทลซื้อบริษัทเซอร์คอม ในราคาหุ้นละ 25 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการเสนอซื้อด้วยเงินสดคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 748 ล้านเหรียญสหรัฐ การเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวซึ่งได้เสร็จสิ้นในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาจะช่วยสนับสนุนธุรกิจคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและธุรกิจเครือข่ายสำหรับเซิร์ฟเวอร์ ทำให้อินเทลสามารถผลิตสินค้าใหม่สำหรับคอมพิวเตอร์แบบโน๊ตบุ้คและแบบไร้สายได้
** ในเดือนกุมภาพันธุ์ บริษัทได้แนะนำผลิตภัณฑ์เซมิคอนดัคเตอร์เครือข่ายใยแก้ว 7 ชนิด ที่ทำให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมสามารถผลิตระบบใหม่ที่ใช้กับเครือข่ายใยแก้วได้ซึ่งเป็นการเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพให้กับเครือข่ายดังกล่าวและทำให้มีบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
** ในเดือนกุมภาพันธ์ อินเทลได้เริ่มทดลองใช้คอนโทรลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เป็น single-chip Gigabit Ethernet โดยใช้เซมิคอนดักเตอร์ชั้นสูงเพื่อช่วยให้เกิดส่งผ่านของข้อมูลสู่เครือข่ายได้ดีขึ้น คอนโทรลเลอร์ใหม่นี้จะช่วยเร่งให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพของเครือข่าย Gigabit Ethernet โดยออกแบบที่ลดความซับซ้อนลงเพื่อให้นักวางระบบสามารถออกแบบระบบได้ง่ายขึ้น
**ในเดือนกุมภาพันธ์ อินเทลประกาศว่าบริษัทได้ทำสัญญาซื้อบริษัท VxTel ในมูลค่าประมาณ 550 ล้านเหรียญสหรัฐ บริษัท VxTel เป็นบริษัทเซมิคอนดัคเตอร์ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ Voice over Packet (VoP) ที่โดดเด่นมากซึ่งมีระบบเสียงที่มีคุณภาพและระบบข้อมูลสื่อสารเครือข่ายใยแก้วสำหรับระบบการสื่อสาร รุ่นใหม่ การซื้อหุ้นดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จสิ้นในเดือนเมษายน
กลุ่มธุรกิจใหม่
** ในเดือนมีนาคมบริษัทยืนยันที่จะส่งมอบจำนวนสมาชิก 250,000 ของ Intel Dot.Station ƒ Web ให้แก่ AOL เป็นส่วนหนึ่งของอินเตอร์เน็ตสำหรับลูกค้าในสเปน
** ในเดือนมีนาคม บริษัท Intel ‚ Online Services ออกโครงการทางการตลาดใหม่สำหรับ application service providers (ASPs) Intel Online Services ASP Accelerator Program เป็นโครงการทางการตลาดแบบเร่งรัดและให้พื้นฐานการบริการที่ทำให้ ASPs โดดเด่นกว่าธุรกิจอื่น
สรุปภาพรวมด้านทางเทคโนโลยีและการผลิต
** ในเดือนมีนาคมบริษัทได้ประกาศถึงความก้าวหน้าทางการพัฒนา (Photomasks หรือ Masks) ซึ่งเป็นผลจากการวิจัยของนักวิจัยอินเทล ซึ่งเป็นแบบมาตรฐานในอุตสาหกรรมสำหรับ Extreme Ultra Violet (EUV) lithography หน้ากากนี้เป็นสิ่งสำคัญในการแสดงถึงความก้าวหน้าด้าน EUV ในฐานะมาตรฐานเพื่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดัคเตอร์ในยุคต่อไป
** ในเดือนเดียวกันนี้ อินเทลประกาศการผลิตชิปซิลิคอนเป็นครั้งแรกที่ใช้เทคโนโลยี 0.13 ไมครอน และเทคโนโลยีเวเฟอร์ แฟบ D1C ขนาด 300 มิลิเมตร ที่เมืองฮิลสโบโร มลรัฐโอเรกอน นับเป็นการผลิตแบบอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรก โดยมีการผลิตแบบเต็มรูปแบบด้วยเทคโนโลยีแบบ 0.13 ไมครอน บนเวเฟอร์ขนาด 300 มิลลิเมตรที่ใหญ่กว่าเดิม อินเทลยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อผลิตชิบที่ใช้เทคโนโลยี ดังกล่าวโดยวางแผนจะนำออกสู่ตลาดในต้นปีหน้า และบริษัทคาดว่าต้นทุนการผลิตไมโครโปรเซสเซอร์บนเวเฟอร์ขนาด 300 มิลลิเมตรจะมีราคาลดลงร้อยละ 30 จากการผลิตไมโครโปรเซสเซอร์ขนาด 200 มิลลิเมตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
อินเทล แคปิตอล
อินเทล แคปิตอล เป็นโครงการเพื่อการลงทุนเชิงกลยุทธ์ของอินเทล ที่เน้นการลงทุนด้านหลักทรัพย์เพื่อช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตทั่วโลก เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่อินเทลสนใจลงทุน อินเทลแคปิตอล จะลงทุนในบริษัทต่าง ๆ โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี พัฒนาโซลูชั่นเพื่อเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม เร่งขยายการเติบโตของ อินเตอร์เน็ต และพัฒนาเพลทฟอร์มคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้อินเทล แคปิตอล ยังรับผิดชอบในการซื้อกิจการต่าง ๆ ด้วยการลงทุนหลักของกองทุนอินเทลแคปิตอลนี้จะเน้นใน 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กองทุนอินเทลคอมมิวนิเคชั่น และ กองทุนอินเทล 64 กองทุนอินเทลคอมมิวนิเคชั่นมีขนาดการ ลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อสนับสนุน Intel ‚ Internet Exchange ƒ Architecture, CT Media ƒ และอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย ส่วนกองทุนอินเทล 64 ซึ่งมีขนาดการลงทุน 253 ล้านเหรียญสหรัฐก่อตั้งขึ้นโดยอินเทลและนักลงทุนจากสถาบันอื่นๆ เพื่อการพัฒนา สถาปัตยกรรมอินเทล 64 bit กองทุนทั้งสองแบบยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของแต่ละกองทุน จากไตรมาสสุดท้าย อินเทลมีพอร์ตการลงทุนทั้งหมด 575 บริษัททั่วโลก ซึ่งประกอบไปด้วย หลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดและหลักทรัพย์ที่เป็นของเอกชน ดังมีรายละเอียดดังนี้
วันที่ 31 มีนาคม 2544 (ล้านเหรียญ) มูลค่า
หลักทรัพย์ที่ซื้อ-ขาย ในตลาดได้ $1,266
หลักทรัพย์อื่นๆ $2,032
รวมการลงทุนทั้งสิ้น $3,298
ณ วันที่ 31 มีนาคม 2544 มูลค่าการลงทุนของอินเทลมีจำนวน 48 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่รวม มูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามราคาตลาด หลักทรัพย์ในความต้องการของตลาดของพอร์ตการลงทุนของอินเทลได้ลงบัญชีแยกเป็นหลักทรัพย์ที่มีไว้เพื่อการค้าหรือหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนและใช้ราคาตลาดในการบันทึกบัญชีในงบดุลการลงทุนในหุ้นทุนอื่นๆ ถูกแยกเป็นสินทรัพย์อื่นในงบดุลซึ่งมีหลักทรัพย์ที่ไม่มีตลาดซื้อขายใช้การลงบัญชีแบบราคาตลาดหรือต่ำกว่า และตราสารอนุพันธ์ของหุ้นทุนเหล่านี้ได้ลงบัญชีโดยใช้ราคาตลาด มูลค่ารวมของพอร์ตการลงทุนจะเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ ได้แก่ การผันผวนของตลาด การลงทุน การตัดขายและการเปลี่ยนแปลงภาวะการซื้อขายของหลักทรัพย์นั้นๆ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนของอินเทลโปรดตรวจสอบดูได้จากเวปไซต์www.intel.com/capital
บริษัท แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 257-0300
โทรสาร 257-0312 (ยังมีต่อ)
-อน-

แท็ก อินเทล   สหรัฐ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ